ริ้วรอยเป็นปัญหาสำคัญที่อาจทำให้ใครหลายคนกังวลใจ แม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด แต่หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจทำให้ผู้ที่ริ้วรอยรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องออกไปพบเจอผู้คนข้างนอก แม้ว่าปัญหาริ้วรอยจะใช้เวลารักษานาน แต่จริง ๆ แล้วมีวิธีที่ลดริ้วรอยได้ไม่ยาก เพียงแค่เติมสารอาหารจากธรรมชาติดังต่อไปนี้ค่ะ
1. น้ำสะอาด
สำหรับสารอาหารแรกนี้เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของทุกคนอยู่แล้ว เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักที่มีอยู่ในร่างกายมากถึง 2 ใน 3 ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงสารอาหารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย และที่สำคัญน้ำยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนัง อีกทั้งช่วยขับของเสียที่ร่างกายสะสมจากการใช้ชีวิตประจำวันผ่านทางปัสสาวะและเหงื่อ ดังนั้นคุณควรดื่มน้ำให้ตรงตามปริมาณที่ร่างกายต้องการอย่างน้อย 6-8 แก้ว หรือประมาณ 2,000 มิลลิลิตร แต่หากต้องการปริมาณน้ำที่ตรงกับร่างกายของเราจริง ๆ แนะนำให้คำนวณจากสูตรดังต่อไปนี้
น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2 เท่ากับปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม x 2.2 x 30 / 2 จะเท่ากับ 1,650 มิลลิลิตร (หรือ 1.6 ลิตร)
2. ถั่วเหลือง
อุดมไปด้วยโปรตีน (Soy protein) มากถึง 36% มีส่วนช่วยในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีของเมลานินในเซลล์สร้างเม็ดสี จึงช่วยลดรอยดำจากสิวอักเสบหรือรอยดำจากรังสี UV ที่มาจากแดด อีกทั้งมีกรดไขมันจำเป็นประมาณ 19% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และมีสารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ขณะเดียวกันก็ยังเป็นไฟโตอิสโทรเจน (phytoestrogen) คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิง จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ผิวกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังมีกรดไฟติก (Phytic acid) ช่วยป้องกันผิวเสื่อมสภาพ, มีซาโปนิน (Saponin) ช่วยทำความสะอาดเซลล์ผิวอีกด้วยค่ะ
3. ไข่ขาว
อุดมไปด้วยวิตามินและโปรตีนสูง ช่วยดูดซับสารพิษออกจากผิว ลดริ้วรอยบนใบหน้า ดูดซับความมันให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นยิ่งขึ้น สำหรับวิธีใช้ไข่ขาวนั้นแนะนำให้นำมาพอกหน้าเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็น ไข่ขาวมีส่วนช่วยลดความมันบนใบหน้า กระชับรูขุมขนให้เล็กลง แต่หากต้องการลดฝ้ากระ ครูก้อยแนะนำให้นำไข่ขาวผสมน้ำมะนาวเพียงเล็กน้อยแล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ทั้งนี้หากรู้สึกแสบจากน้ำมะนาว แนะนำให้ผสมน้ำเจือจางจนกว่าอาการแสบจะทุเลาลง
4. แตงกวา
อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการบวมของผิว ผิวแพ้แดง บรรเทาระคายเคืองผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว อีกทั้งมีเอนไซม์อีเรปซิน (Erepsin) ช่วยผลัดเซลล์ใหม่ ทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป ทำให้ผิวที่หยาบกร้านดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยน้ำ วิตามินเอ ซัลเฟต และโพแทสเซียม ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและบรรเทาอาการผิวไหม้แดด ช่วยลดเรือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวแห้งเสียจากมลภาวะ บำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรงด้วยเอนไซม์ ช่วยขับของเสียสะสมออกจากผิวได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ฝานเป็นแผ่นบาง ๆ บนผิวที่ต้องการบำรุงโดยทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และวางทิ้งไว้เพียง 15-20 นาที
5. ปลาทะเล
อุดมไปด้วยคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยในการชะลอริ้วรอยก่อนวัย ลดรอยตีนกา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผิวด้วยการกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในปลาทะเลอย่างทูน่าและแซลมอนที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบบริเวณใต้ชั้นผิวและบรรเทาอาการสิวอักเสบ
6. วิตามิน C
วิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยกระตุ้นให้ผิวผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น พอผิวมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้น จะแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ช่วยลดเลือนและชะลอริ้วรอยก่อนวัยได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยปรับผิวหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใสขึ้นด้วย ช่วยลดเลือนบริเวณรอยดำหรือบริเวณที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ ให้ขาวสว่างกระจ่างใสเท่ากัน เพราะวิตามินซีช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ในชั้นผิวและยังมีส่วนกระตุ้นให้ร่างกายผลิตกลูต้าไธโอนและวิตามินอีเพิ่มขึ้นด้วย ช่วยให้ผิวของเรามีสุขภาพดี ทนทานต่อมลภาวะได้มากขึ้น เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ทำหน้าที่ยับยั้งสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ ได้โดยเฉพาะรังสี UV จากแสงแดดและแสงบลูไลท์ (Blue light) จากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ อย่างสมาร์ทโฟนและแล็บท็อป
มีวิธีลดริ้วรอยแบบอื่นอีกไหม
จริง ๆ แล้วมีเยอะมากเลยค่ะ โดยวิธีที่แนะนำนั้นอาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน, บริหารจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม ผ่อนคลายตัวเองด้วยการหากิจกรรมที่ชอบหรือกิจกรรมใหม่ ๆ ทำ และอื่น ๆ อีกมากที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ครูก้อยรับรองว่าช่วยลดริ้วรอยและลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยได้แน่นอนค่ะ
Comments