รอบเดือนมาไม่ปกติ ถือว่าเป็นปัญหาหลักของสาว ๆ หลายคนที่พบบ่อยและเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวผู้หญิงเรามากๆ เลยล่ะค่ะ ยิ่งถ้าสาว ๆ คนไหนเตรียมตัวมีลูกด้วยแล้วล่ะก็ ภาวะดังกล่าวสร้างความกังวลได้มากเลยทีเดียว เพราะยิ่งประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอมากเท่าไหร่ก็ยิ่งลดโอกาสการตั้งครรภ์ให้น้อยลงมากเท่านั้นด้วยนะคะ วันนี้ครูก้อยจะมาพูดถึงสาเหตุ วิธีแก้ไข และป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านกันเลยค่ะ
รอบเดือนมาไม่ปกติ เกิดจากอะไร
1. ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
หากสาว ๆ มีฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มากหรือน้อยเกินไปจากภาวะวัยทองก่อนวัย รังไข่เสื่อม หรือป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนอย่างไทรอยด์เป็นพิษ ก็อาจมีผลต่อรอบเดือนที่มาไม่ปกติได้ค่ะ
2. ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome)
เป็นภาวะที่สาว ๆ มีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป เป็นเหตุทำให้ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ไข่มีใบเล็กลง ส่งผลให้ฮอร์โมนไม่สมดุล ไข่ด้อยคุณภาพ ส่งผลให้ประจำเดือนขาดหรือหาย น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบง่ายขึ้น
3. พฤติกรรมเสี่ยง
หากสาว ๆ คนไหนเสพติดการออกกำลังกายอย่างหักโหม อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะรอบเดือนมีไม่ปกติมากขึ้นนะคะ เพราะร่างกายจะใช้พลังงานสูงขึ้นและทำให้ไขมันในร่างกายต่ำเกินไป อาจทำให้น้ำหนักตัวน้อยกว่าน้ำหนักตัวมาตรฐานถึง 10% นอกจากนี้ยังมีรวมไปถึงโรคเบื่ออาหาร (Anorexia) โรคบูลิเมีย หรือโรคล้วงคอ (Bulimia Nervosa) เป็นเหตุทำให้ระดับฮอร์โมนและการตกไข่ผิดปกติได้ค่ะ หรือแม้แต่การใช้ยารักษาโรคบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยาต้านอาการทางจิต เคมีบำบัด เป็นต้น
รอบเดือนมาไม่ปกติ สังเกตได้อย่างไร
สำหรับรอบเดือนโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 28-35 วัน โดยนับวันที่มีประจำเดือนวันแรกเป็นวันที่ 1 และวันก่อนวันแรกของประจำเดือนรอบถัดไปเป็นวันสุดท้าย แต่หากรอบเดือนสั้นกว่า 21 วัน หรือยาวกว่า 36 วัน บางเดือนมี 21 วัน อีกเดือนมี 40 วัน หรือแม้แต่ประจำเดือนขาดหายนานเกิน 3 เดือน แสดงว่ารอบเดือนของคุณมาไม่ปกติค่ะ
รอบเดือนมาไม่ปกติ อันตรายอย่างไร
ช่องคลอดแห้ง รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์จนไม่มีอารมณ์ทางเพศ
ตกขาวมีกลิ่น รู้สึกคัน
มีขนขึ้นตามร่างกายมากขึ้น
ผิวแห้ง ไม่กระชับ
หน้าอกหย่อนคล้อย
มีสิวขึ้นง่าย
ปวดศีรษะ
ร้อนวูบวาบบ่อยขึ้น
กลิ่นกายเหม็น
อ่อนเพลีย รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า
ระบบเผาผลาญไม่ดี อ้วนง่าย
เสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
รอบเดือนมาไม่ปกติ แก้ยังไงดี
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นสายปาร์ตี้ ทานอาหารตามใจปาก ครูก้อยขอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารสักนิด เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหารอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคเส้นเลือดหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจไม่แข็งแรง เป็นต้น
2. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
นอกจากการเลือกรับประทานอาหารแล้ว การควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานนั้นมีส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหารอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ สำหรับวิธีคุมน้ำหนักที่ครูก้อยแนะนำจะเน้นไปที่การออกกำลังกายอย่างพอดี ไม่หักโหมหรือน้อยเกินไป ได้แก่ การเดินเบา ๆ เล่นโยคะ ปั่นจักรยานอยู่กับที่ ว่ายน้ำ พิลาทิส เต้นแอโรบิคเบา ๆ หรือบอดี้เวท ยืดกล้ามเนื้อก็ได้เช่นกันค่ะ ทั้งนี้ควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30-45 นาที หรือออกให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาทีค่ะ
3. พักผ่อนอย่างเพียงพอ
และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือการพักผ่อนที่เพียงพอ หากคุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อยเกินไป จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด หรือคอร์ติซอล (Cortisol) จนเข้าไปรบกวนฮอร์โมนเพศหญิงไม่ให้เกิดสมดุลและทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวน รวมถึงระบบสืบพันธุ์ที่มีผลต่อรอบเดือนโดยตรงอีกด้วยค่ะ ทางที่ดีควรนอนหลับประมาณ 7-8 ชั่วโมง โดยหลับในช่วงเวลาประมาณ 20.30-21.30 น. ส่วนเวลาตื่นจะอยู่ที่ 05.30-06.30 น. ค่ะ
รอบเดือนมาไม่ปกติ แก้ได้ด้วย OvaAll จาก Babyandmom
วิตามินโอวาออลล์ เป็นวิตามินที่ครูก้อยออกแบบมาสำหรับบำรุงไข่โดยเฉพาะ อุดมไปด้วยโฟลิก (Folic) มัลติวิตามินและแร่ธาตุรวมถึง 20 ชนิด น้ำมันปลา (Fish oil) โคเอ็นไซม์ คิวเท็น (Coenzyme Q10) และน้ำมันจมูกข้าว มีส่วนช่วยเสริมการทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นวงจรการตกไข่ให้เป็นปกติ เพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์ไข่ ช่วยให้แบ่งเซลล์ไข่ได้อย่างสมบูรณ์ เพิ่มโอกาสฝังตัวให้มากขึ้น กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและปรับฮอร์โมนเพศให้สมดุล จึงเหมาะสำหรับคุณแม่เตรียมท้องทุกคน โดยเฉพาะคนเตรียมทำ IUI, IVF และ ICSI
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: OvaAll วิตามินโอวาออลล์
Comments