"มีอัณฑะข้างเดียว" ภาวะที่คุณผู้ชายหลายคนอาจไม่เคยรู้จัก และอาจมีอีกหลายคนเช่นเดียวกันที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ โดยมักมีภาพจำต่อผู้ป่วยในกลุ่มอาการนี้ว่า เป็นผู้ที่ไม่สามารถมีบุตรได้ แต่แท้จริงแล้ว ยังสามารถมีได้อยู่ค่ะ แต่จะต้องทำวิธีใดนั้น ครูก้อยมีคำตอบค่ะ
มีอัณฑะข้างเดียว คืออะไร อันตรายหรือไม่ มีลูกได้หรือเปล่า?
ภาวะมีอัณฑะข้างเดียว (Monorchidism) เป็นภาวะความผิดปกติอย่างหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ตอนโตก็ได้ ซึ่งภาวะนี้มักจะส่งผลให้มีลูกยาก เนื่องจากถุงอัณฑะมีความสามารถในการผลิตอสุจิได้น้อยกว่าคนทั่วไป
ประเภทของการไม่พบอัณฑะในถุง
ประเภทของการไม่พบอัณฑะในถุง ได้แก่
1. Retractile testes
คือ อัณฑะซึ่งเดิมอยู่ในตําแหน่งปกติในถุงอัณฑะ และมีการหดขึ้นไปข้างบน ซึ่งจะเริ่มมีในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ประกอบกับขนาดของลูกอัณฑะยังเล็ก อัณฑะจึงเข้าไปหลบอยู่ในช่องขาหนีบ (inguinal canal) ได้ง่าย
พบมากที่สุดในอายุ 6-7 ปี และไม่พบในเด็กอายุมากกว่า 13 ปี มักเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งสองข้าง การซักประวัติย้อนกลับไปเมื่อตอนเด็กเล็กหรือแรกคลอด ลูกอัณฑะจะอยู่ในถุงอัณฑะ และมักได้ประวัติว่าเวลาเด็กหลับอัณฑะจะลงมาในถุงได้เอง
หากตรวจร่างกายจะพบขนาดของอัณฑะปกติและสามารถดึงลูกอัณฑะลงมาในถุงอัณฑะปกติ ดังนั้น rectractile testes จึงเป็นปรากฏการณ์ปกติที่พบในช่วงอายุหนึ่ง ไม่ต้องการการรักษา
2. Ectopic testes
คือ อัณฑะที่เคลื่อนลงมาจาก retroperitoneum ผ่าน external ring ไปยังที่อื่นซึ่งไม่ใช่แนวที่ไปยังถุง
อัณฑะ ร้อยละ 80 ของ ectopic testes เป็นข้างเดียว และร้อยละ 75 พบที่ผิวบริเวณขาหนีบ (superficial inguinal pouch) ขนาดของอัณฑะจะปกติ เชื้ออสุจิและฮอร์โมนแอนโดรเจนปกติ (spermatogenesis และ androgen function)
การรักษาคือการผ่าตัดนําอัณฑะนั้นมาในถุงอัณฑะ (orchiopexy) การรักษาโดยให้ฮอร์โมนไม่ได้ประโยชน์อะไร
3. Monorchia หรือ anorchia (absence of testes)
คือไม่พบอัณฑะเลย พบได้ร้อยละ 3.3-5.2 ของภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง (undescended testis) ร้อยละ 80 เป็นข้างใดข้างหนึ่ง (เรียกว่า monorchia) การไม่มีอัณฑะเลยในข้างหนึ่งข้างใดอาจเกิดจากอัณฑะนั้นไม่พัฒนา ซึ่งหลอดอสุจิ (vas deferens) จะเจริญไม่สมบูรณ์และบางครั้งมีการหายไปของไตและท่อไตร่วมด้วย หรืออาจเกิดขึ้นเนื่องจากมีการบิด (testicular torsion) ทําให้อัณฑะนั้นขาดเลือด และฝ่อ (atrophy) ไปในที่สุด ซึ่งจะเรียกว่า "vanishing testis”
อัณฑะข้างเดียว อันตรายไหม?
ปกติอัณฑะจะต้องลงถุง ขณะที่ทารกเพศชายอยู่ในครรภ์ ดังนั้นในกรณีที่ไม่มีอัณฑะ ข้างใดข้างหนึ่งนั้น ถือว่าผิดปกติ อันตรายที่เกิดขึ้น นอกจากอาจทำให้เป็นหมันในอนาคตแล้วก้อนอัณฑะที่ค้างอยู่ ในท้องอาจกลายเป็นมะเร็งได้ ดังนั้นถ้าพบ ไม่ว่าอายุเท่าไร ควรทำการผ่าตัดแก้ไข ในอายุน้อยการผ่าตัดอาจทำให้ไม่เป็นหมันได้ แต่ในกรณีอายุมาก การผ่าตัดเพื่อให้รู้ความผิดปกติอาจไม่ง่าย กรณีที่อัณฑะผิดปกติ เนื่องจากถ้าอยู่ในท้องเราไม่สามารถดูได้ แต่เรื่องการสร้างอสุจิอาจเสียไป ถ้าทำหลังเริ่มเข้าวัยเจริญพันธุ์แล้วค่ะ
วิธีแก้ไข ภาวะมีลูกยาก ด้วยการทำอิ๊กซี่ (ICSI)
หากตรวจออกมาแล้วพบว่า น้ำอสุจิเชื้อน้อย และไม่ค่อยแข็งแรง หากท่านต้องการวางแผนการมีบุตร แพทย์จะทำการแนะนำ การทำอิ๊กซี่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากการทำ IUI (การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก) และการทำเด็กหลอดแก้วแบบ IVF (การเลือกไข่และอสุจิ ให้มาปฏิสนธิกันเองในจานทดลอง) ซึ่งความแตกต่างการทำอิ๊กซี่คือ การคัดเลือกเชื้อที่มีความสมบูรณ์ที่สุด แข็งแรงที่สุดฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิจนเกิดเป็นตัวอ่อน วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดีกว่าการทำเด็กหลอดแก้วแบบอื่น ๆ เพราะเป็นการฉีดเชื้อเข้าไปในไข่โดยตรง เชื้อไม่ต้องเจาะไข่เอง ซึ่งเหมาะสมมากกับผู้ที่มีปัญหาน้ำเชื้อน้อยและไม่ค่อยแข็งแรง
Kommentare