น้ำมะกรูดครูก้อย เชื่อว่าว่าที่คุณแม่มือใหม่หลายๆ คนหรือผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวตั้งครรภ์ไม่มากก็น้อย ต้องเคยได้ยินสรรพคุณของน้ำมะกรูดคั้นสดกันมาบ้าง ว่ามีสารชนิดหนึ่งที่ช่วยให้การตั้งครรภ์ง่ายขึ้น
ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักเจ้าสารดังกล่าว ผ่านผลิตภัณฑ์น้ำมะกรูด ผสมน้ำผึ้งชันโรงของครูก้อยกันค่ะ
น้ำมะกรูดครูก้อย ดีไหม ช่วยให้มีลูกง่ายจริงหรือเปล่า?
มะกรูด เป็นพืชในสกุลส้ม (Citrus) พืชสวนครัวที่อยู่คู่ครัวไทยมาเนิ่นนาน นิยมใช้ทั้ง น้ำมะกรูด ใบมะกรูด และผิวมะกรูด มาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องปรุงอาหารหลายชนิด นอกจากนี้มะกรูดยังมีคุณประโยชน์ทางยามากมาย สามารถนำส่วนต่างๆ มาใช้รักษาอาการได้อย่างหลากหลาย ที่สำคัญมะกรูดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงมีส่วนช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายและต้านทานโรคหลายชนิด อีกทั้งมะกรูดยังมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และช่วยฟอกเลือดสตรี ช่วยขับระดู นิยมใช้เป็นส่วนผสมในยาบำรุงประจำเดือน ซึ่งมักจะมีมะกรูดอยู่ในตำรับยาเสมอนอกจากนี้ มะกรูด ยังมี สารต้านอนุมูลอิสระ ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ชื่อว่า "เควอซิทิน" (Quercetin) สูงสุดในกลุ่มของพืชผลไม้รสเปรี้ยวเป็นแอนตี้ออกซิแดนซ์ชั้นดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระให้กับเซลล์
“ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์” ผู้ก่อตั้งเพจ BabyAndMom.co.th ยืนหนึ่งในใจผู้มีบุตรยาก เผยว่ามีรายงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Food Sciences and Nutrition เมื่อปี ค.ศ. 2009 ระระบุว่า สารเควอซิทิน ที่พบมาในกลุ่มผลไม้รสเปรี้ยว มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะมะกรูดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ชื่อว่า เควอซิทิน ซึ่งที่ดีต่อกระบวนการภายในของร่างกาย และที่สำคัญ คือ ส่งผลดีต่อภาวะเจริญพันธุ์ โดยมีงานวิจัยหลายฉบับศึกษาถึงสรรพคุณของเควอซิทินที่ช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ ได้แก่ ป้องกันไข่ฝ่อ, บำรุงไข่, ต้านการอักเสบ, ปรับสมดุลฮอร์โมน, ลดน้ำตาลในเลือด และลดความดันโลหิตอีกด้วย
ทำไม "น้ำมะกรูด" จึงดีต่อสตรีมีบุตรยาก?
ครูก้อย ได้ขยายความไว้ในงานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cell Death & Disease เมื่อปี 2020 ศึกษาสาเหตุการท้องยากอันเนื่องมาจากเซลล์ไข่เสื่อมเมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้น แต่สารเควอซิทิน สามารถชะลออายุเซลล์ไข่ได้ นอกจากนั้น สารเควอซิทินที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของรังไข่ ชะลอความเสื่อมของรังไข่ ที่เป็นสาเหตุต้นๆ ของภาวะมีบุตรยาก นอกจากนั้นงานวิจัยยังระบุว่สรรพคุณของเควอซิทิน ว่า ลดการอักเสบในร่างกายและยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย
"เควอซิทิน" ในมะกรูดดีต่อสตรีมีบุตรยากอย่างไร?
สรรพคุณของเควอซิทินที่ช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ซึ่งส่งผลดีต่อผู้มีบุตรยากหลากหลายประการ โดยได้สรุปเป็น 6 ข้อหลักๆ ดังนี้
1. ป้องกันไข่ฝ่อ
สารเควอซิทินช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ไข่ โดยปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระ "Quercetin" ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เปอร์เซ็นต์ความผิดปกติของเซลล์ไข่ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเลี้ยงไข่ที่ 24 ชั่วโมง หากไม่มี "สารต้านอนุมูลอิสระ เควอซิทิน" ไข่จะฝ่อเสียเกือบ 80% แต่ในกรณีที่มีเควอซิทินเพียง 10 ไมโครโมลาร์ จะช่วยลดความเสียหายได้เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในความสำเร็จจนถึงระดับบลาสโตซีสต์ได้อีกเท่าตัว
2. บำรุงรังไข่
คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของสารเควอซิทินที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของรังไข่ (Ovary) จากงานวิจัยสรุปไว้ว่า "รังไข่" เป็นอวัยวะที่ เซนซิทีฟ และง่ายต่อการเสื่อมถอยของเซลล์ (aging) จากอนุมูลอิสระ หรือ ความแก่นั่นเอง ซึ่งรังไข่ที่แก่บอกได้จากการลดลงของฟองไข่และคุณภาพของเซลล์ไข่
รังไข่ของผู้หญิงวัยทอง หรือ ผู้หญิงที่มีภาวะวัยทองก่อนวัยจะทำงานด้อยประสิทธิภาพลง ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของเซลล์ในรังไข่ก็ลดน้อยลง เมื่อสารต้านอนุมูลอิสระในรังไข่เพิ่มมากขึ้นก็จะทำลายโครงสร้างและระบบการทำงานของรังไข่ โดยอนุมูลอิสระจะเข้าไปทำลาย lipid และกรดไขมัน รวมไปถึงโปรตีนที่เป็นองค์ประกอบของเซลล์
3.ต้านการอักเสบ
สรรพคุณของสารเควอซิทินที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย การอักเสบเป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้กลับมาเป็นปกติ การอักเสบจะเกิดขึ้นเพื่อป้องกันการทำลายเซลล์ หรือ การบาดเจ็บในร่างกายซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก ความเครียด ความเจ็บป่วย การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ กระบวนการอักเสบเป็นกลไกในการป้องกันสิ่งแปลกปลอม แต่หากมีการอักเสบมากเกินไปก็จะเกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อได้
4. ปรับสมดุลฮอร์โมน
เควอซิทิน ช่วยเยียวยาภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (PCOS) ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้มีบุตรยาก โดยภาวะนี้มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนเพศที่ไม่สมดุล โรคอ้วน เบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูงซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันกันก่อให้เกิดภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง
5. ลดน้ำตาลในเลือด
ผู้หญิงที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลต่อความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และยังเป็นการเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (PCOS)
6. ลดความดันโลหิต
ความดันโลหิตสูงเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้หญิงตั้งครรภ์เพราะจะก่อให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด มีภาวะเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงทารกลดลง ทำให้ทารกโตช้าหรือเสียชีวิตในครรภ์ได้ ดังนั้นการรักษาระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อนการตั้งครรภ์จะส่งผลต่อการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย
เกี่ยวกับ "น้ำมะกรูด" ของ ครูก้อย (Kaffir Lime Juice with Stingless Bee Honey) น้ำมะกรูด 70% ผสมน้ำผึ้งชันโรง
ส่วนผสม
น้ำมะกรูด 70% ผสมน้ำผึ้งชันโรง
น้ำมะกรูด 70% ผสมน้ำผึ้งชันโรง “สูตรเตรียมตั้งครรภ์”
น้ำมะกรูดเข้มข้นคั้นจากผลมะกรูดสด ไม่ใช้หัวเชื้อ ผสานคุณค่าของน้ำผึ้งชันโรงแท้จากเกสรดอกไม้ 100%
ได้น้ำมะกรูดครูก้อยรสชาติอร่อย ดื่มง่ายกว่าที่เคย หวานอมเปรี้ยวจากธรรมชาติแท้ๆ
คงคุณค่าสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์ และ เควอซิทีน ในน้ำมะกรูดสดผสานคุณประโยชน์ทาง “โภชนเภสัช” จากน้ำผึ้งชันโรง
ไม่เติมน้ำตาล ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งรสชาติ
ดื่มบำรุงเตรียมตั้งครรภ์ได้อย่างมั่นใจทุกวัน
สรรพคุณ
1. น้ำมะกรูดมีวิตามินซีสูง
วิตามินซีจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ไข่ไม่ให้ถูกทำลาย สมบูรณ์พร้อมรับการปฏิสนธิ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
2. น้ำมะกรูดมีไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids)
ไบโอฟลาโวนอยด์หรือวิตามินพีเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินซี และยังช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และเส้นเลือดฝอย โดยเฉพาะบริเวณมดลูกที่มีเส้นเลือดหล่อเลี้ยงจำนวนมาก ทำให้มดลลูกแข็งแรง เพราะมีเลือดไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ตัวอ่อนฝังตัวง่ายขึ้น
ไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และการติดเชื้อของเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะที่มดลูก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการแท้งในระยะเริ่มต้น และ ไบโอฟลาโวนอยด์ยังไปเสริมการทำงานของวิตามินซีที่ช่วยเรื่องการเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการตั้งครรภ์
3. น้ำมะกรูดมีสารเควอซิทีน
ช่วยบาลานซ์ฮอร์โมนเพศสารเควอซิทีนช่วยบาลานซ์ฮอร์โมนเพศหญิง เควอซิทีนช่วยปรับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และฮอร์โมนแอนโดรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายและช่วยเสริมการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และ เอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่สำคัญในการสืบพันธุ์ และการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังช่วยปรับระดับฮอร์โมน LH ซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ ซึ่งผู้ที่อยู่ในภาวะ PCOS จะมีฮอร์โมนตัวนี้สูงเกินไป ส่งผลให้รังไข่ทำงานไม่เป็นปกติ
4. น้ำมะกรูดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ช่วยบาลานซ์ประจำเดือนให้มาตรงปกติ ผู้ที่อยู่ในภาวะ PCOS (ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง) ควรดื่มน้ำมะกรูด เพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น นำพาออกซิเจน และสารอาหารไปเลี้ยงบริเวณรังไข่ และมดลูกได้ดียิ่งขึ้นส่งผลให้ได้ไข่ที่สมบูรณ์ และมดลูกที่พร้อมในการฝังตัว
5. น้ำมะกรูดช่วยปรับระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
รวมถึงบาลานซ์ความเป็นกรด-ด่างในเลือด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ เลือดที่ข้นเหนียวมีฤทธิ์เป็นกรด ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปส่งผลต่อภาวะดื้ออินซูลินซึ่งเหนี่ยวนำให้เกิดฮอร์โมนเพศชายในร่างกายสูง ส่งผลต่อภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง และไข่ด้อยคุณภาพ
6. น้ำผึ้งชันโรง
เป็นน้ำผึ้งจากตัวชันโรงซึ่งเป็นแมลงตัวเล็กๆ ไม่มีเหล็กในเรียกว่า Stingless bee ตัวชันโรงจะกินน้ำหวานจากเกสรดอกเท่านั้น ไม่กินน้ำเชื่อมจากฟาร์มเลี้ยงเหมือนผึ้งทั่วไป และจะเก็บเกี่ยวน้ำหวานจากเกสรดอกไม้หลากหลายชนิดทำให้ได้น้ำผึ้งที่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีรสชาติจากการหมักบ่มตามธรรมชาติแบบหวานอมเปรี้ยว มีพรีไบโอติกและโพรไบโอติก มีสรรพคุณทางยาจนได้รับชนานนามว่าเป็น “The Mother Medicine”
7. น้ำผึ้งชันโรงมีวิตามินซีสูงและยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย
ได้แก่ วิตามินB1 B2 B5 B8 B9 (Folic) วิตามิน E วิตามิน K โดยเฉพาะวิตามินซีและโฟลิกที่จำเป็นอย่างมากต่อคนวางแผนตั้งครรภ์ ช่วยให้ไข่สมบูรณ์ และป้องกันทารกพิการ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญต่อคนวางแผนตั้งครรภ์ ได้แก่ สังกะสี (Zinc) เป็นตัวช่วยให้ไข่สุกพร้อมปฏิสนธิ ธาตุเหล็ก (Iron) ช่วยบำรุงเลือด และ แมกนีเซียม (Magnesium) ดีต่อผู้ที่มีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (PCOS)
8. น้ำผึ้งชันโรงอุดมไปด้วยไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) และฟีนอลิก(Phenolic)
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆในร่างกายจากความเสื่อมถอยรวมไปถึงเซลล์ไข่ด้วย จากงานวิจัยศึกษาพบว่าในน้ำผึ้งชันโรงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป 5-10 เท่า
9. น้ำผึ้งชันโรงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory properties)
เนื่องจากในน้ำผึ้งชันโรงมีสาร Antioxidants สูง จึงช่วยปกป้องร่างกายจากการอักเสบ ซึ่งหากร่างกายอักเสบจะส่งผลต่อภาวะไข่ไม่ตก เซลล์ไข่ด้อยคุณภาพ รังไข่เสื่อมก่อนวัยและเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้
10. ความหวานจากน้ำผึ้งชันโรงเป็นความหวานที่มีประโยชน์
ไม่ส่งผลต่อโรคอ้วนหรือเบาหวานในน้ำผึ้งชันโรงมีน้ำตาลชนิดพิเศษซึ่งเป็นน้ำตาลที่ตอนนี้พบในน้ำผึ้งชันโรงเท่านั้น มีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำ และค่าดัชนีอินซูลินต่ำ จึงไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลัน
วิธีรับประทาน
1. คนบำรุงเตรียมตั้งครรภ์
ดื่มบำรุงวันละ 2 ขวด เช้า-เย็น (ดื่มตอนท้องว่างจะดูดซึมวิตามินได้ดีที่สุด)
2. คนบำรุงไข่ก่อนไปฉีดเชื้อ IUI หรือ เก็บไข่ทำ ICSI
ดื่มบำรุงวันละ 2 ขวด ควบคู่กับสูครคั้นสด 1 ขวด
3. ช่วงเตรียมผนังมดลูก
ดื่มวันละ 1-2 ขวด ช่วยสร้างสมดุลภายในมดลูก บำรุงเลือด ลดการอักเสบติดเชื้อในมดลูก
4. คุณแม่ตั้งครรภ์
ดื่มวันละ 1-2 ขวด ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดีเลยค่ะ
5. คนรักสุขภาพทั่วไป
ดื่มวันละ 1 ขวด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงผิวพรรณผ่องใส ชะลอวัยและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย
กล่าวโดยสรุป น้ำมะกรูดคั้นสดมีสารเควอซิทินสูง ส่งผลดีต่อผู้หญิงที่มีบุตรยาก เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ไข่ ช่วยชะลอความเสื่อมของรังไข่ ลดภาวะดื้ออินซูลิน ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดฮอร์โมนเพศชายและระดับฮอร์โมน LH ปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยให้ไข่ตกปกติ ดังนั้น หากคุณแม่ท่านใดสนใจ สามารถติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อได้ทาง Line: @BabyAndMom.co.th เลยค่ะ
