รู้ไหมยิ่งเครียด...ยิ่งท้องยาก
7 วิธีลดความเครียด...เพิ่มโอกาสท้อง
น้องไม่มาสักที...พยายามมาเป็นปี ทั้งท้อ ทั้งเครียดแม่ๆรู้ไหม ยิ่งเครียดเท่าไหร่ ยิ่งท้องยากขึ้น!
จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่มีความกังวลและจมกับความเครียดส่งผลให้ตั้งครรภ์ยากสูงถึง 20%
มีผลวิจัยชิ้นหนึ่งได้สุ่มทดลองกับผู้หญิงที่อยากมีบุตรจำนวน 501 คน โดยนำน้ำลายไปตรวจสอบเพื่อวัดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) และแอลฟา-อะไมเลส (Alpha-amylase) สารสำคัญ 2 ชนิดที่จะสื่อได้ว่า เรามีความเครียดมากน้อยแค่ไหน ผลการศึกษาพบว่า....
ผู้หญิงที่ถูกค้นพบว่ามีสารสำคัญ 2 ชนิดนี้ในปริมาณที่สูง แปลได้ว่ามีความเครียดพอสมควร จะมีแนวโน้มตั้งครรภ์ยากตามไปด้วย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็แสดงความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อผู้หญิงเกิดความเครียด #การตกไข่ก็จะผิดปกติ ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และเมื่อไข่ไม่ตก โอกาสท้องก็ลดน้อยลงนั่นเองค่ะ
ดังนั้นแม่ๆต้องหาโอกาสผ่อนคลาย ลดความเครียด วันนี้ครูก้อยจะพาไปดูกิจกรรมผ่อนคลาย ลดเครียด เพื่อเพิ่มโอกาสท้องกันค่ะ
1.อย่าเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวจนกดดันและเครียดสะสม
แน่นอนค่ะเมื่อคาดหวัง ตั้งใจอยากมีน้องแต่ไม่สำเร็จสักที ให้ถอยกลับมาตั้งสติและปล่อยความรู้สึกออกมาอย่างเต็มที่เลยค่ะ แม่ๆร้องไห้ได้ พูดคุยปรับทุกข์กับสามี กับเพื่อนสนิทได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว การปลดปล่อยความเสียใจออกไปช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลายเป็นการปรับสมดุลฮอร์โมน...เมื่อฮอร์โมนสมดุลขึ้น โอกาสท้องก็มีมากขึ้นค่ะ
2. หาความรู้ ยิ่งไม่รู้ยิ่งเครียด
เมื่อไม่ท้อง การจมกับความเครียดหรือนั่งโทษกันเองไม่ก่อให้เกิดผลดีใดๆ ควรอ่านหนังสือ อ่านบทความ อ่านงานวิจัยในอินเตอร์เน็ต หรือติดตามเพจ BabyandMom.co.th ของครูก้อยเพื่อรวบรวมสาเหตุที่อาจเป็นไปได้ จะได้รู้แนวทางว่าทำไมเราถึงไม่ท้อง และหาทางแก้ไข เราจะได้โฟกัสที่การหาแนวทาง ไม่ใช่จมกับความเครียด
วิธีที่ดีที่สุดคือควรวางแผนไปพบแพทย์รักษามีบุตรยากเพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด เมื่อทราบแล้วก็จะได้รักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไปค่ะ
3. Take a break! ถอยออกมา หาเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง
โฟกัสแต่เรื่องปั๊มเบบี๋จนเครียด ยิ่งเครียด ยิ่งท้องยาก คุยกันกับคู่ของคุณ เดือนนี้เราพักกันก่อน ออกไปเที่ยวกันเถอะ หรือหากิจกรรมอื่นทำร่วมกัน ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร ดูซี่รี่ย์เรื่องโปรด เมื่อเราไม่จมกับความเครียด ลูกน้อยอาจจะมาไม่ทันตั้งตัวนะคะ
4. ทำสมาธิ ฝึกโยคะ ลดเครียด
การฝึกทำสมาธิ กำหดลมหายใจ หรือ ฝึกโยคะช่วยให้เราผ่อนคลายจากความเครียดได้ จัดสรรเวลาในแต่ละวันฝึกสมาธิหรือเล่นโยคะให้เป็นนิสัย
มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Ancient Science of Life เมื่อปี 2012 ศึกษาพบว่า เมื่อเราจัดการกับความเครียดได้ ฮอร์โมนในร่างกายจะปรับเข้าสู่ภาวะสมดุล ร่างกาย จิตใจและลมหายใจ ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกัน การฝึกโยคะช่วยปรับสมดุลความเชื่อมโยงกันระหว่างการทำงานของสมองและฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายสมดุลในองค์รวม นอกจากนี้ฮอร์โมนที่สมดุลยังช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้เป็นปกติ
5. เข้ากลุ่มที่ช่วย Support ความรู้สึกซึ่งกันและกัน
หากเรามีกลุ่มแม่ๆที่ท้องยากเหมือนกันคอยแลกเปลี่ยน พูดคุย ให้กำลังใจกันก็จะช่วยผ่อนคลายความเครียดลงไปไม่น้อยค่ะ เข้ากลุ่มคุณแม่เตรียมตั้งครรภ์ในช่องทางออนไลน์ เพื่อแลกเปลี่ยนกันก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดความเครียดได้ เพราะเราอาจจะพบว่ามีคนที่ประสบปัญหาเหมือนเรา หรือหนักกว่าเราเสียอีก เราไม่ได้เครียดอยู่คนเดียว และให้แบ่งปันกันแต่เรื่องดีๆ ให้กำลับใจกัน อย่าเก็บเอามาเปรียบเทียบนะคะ เพราะสุขภาพร่างกาย อายุของแม่ๆแต่ละคนไม่เหมือนกัน เดี๋ยวจะเครียดไปกว่าเดิม
6. จัดเวลาการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
เพราะการนอนหลับที่เพียงพอ ส่งผลต่อระบบการทำงานของสมองและอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกายรวมไปถึงควบคุมการหลั่งฮอร์โมนเพศที่เป็นสิ่งสำคัญต่อการตั้งครรภ์ด้วย
รู้ไหม การนอนไม่พอส่งผลต่อฮอร์โมนสืบพันธุ์ไม่สมดุล
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Sleep Medicine Report เมื่อปี 2016 ศึกษาพบว่าทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
สมองส่วนที่ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เราหลับ หรือ ตื่น เช่น ฮอร์โมนเมลาโทนิน และ คอติซอล เป็นสมองส่วนที่กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเพศด้วยเช่นกัน ดังนั้นฮอร์โมนที่ควบคุมการตกไข่ในผู้หญิง และ ฮอร์โมนที่ควบคุมการผลิตสเปิร์มในผู้ชายจึงมีความสัมพันธ์กับคุณภาพของการนอนหลับด้วย
โดยในผู้หญิงนั้น การนอนไม่เพียงพอในระยะยาวส่งผลโดยตรงต่อการสร้าง Luteinizing Hormone (LH) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมาในช่วงที่จะมีการตกไข่ มีผลทำให้รังไข่ปล่อยไข่ออกมาเพื่อรอการปฏิสนธิ LH เป็นฮอร์โมนหนึ่งที่จะหลั่งออกมาในช่วงที่มีการตกไข่ของรอบเดือนนั้นๆ หากฮอร์โมน LH ผิดปกติก็จะส่งผลต่อรอบเดือนที่ไม่ปกติ ส่งผลให้ไข่ไม่ตก หรือ ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการมีบุตรยากนั่นเองค่ะ
โดยนักวิจัยแนะนำว่าควรนอนพักผ่อนให้ได้ 7-8ชม.ต่อวัน
7. ดื่มน้ำขิงผ่อนคลายความเครียด นอนหลับสบาย
น้ำขิงใครก็รู้ว่าทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมในกระเพาะอาหาร ทำให้ท้องไม่อืด ไม่อึดอัด แถมยังทำให้ร่างกายอบอุ่น เลือด Flow
แนะนำให้ชงขิงดำ 1 ช้อนชาดื่มก่อนนอนนะคะ ขิงดำมีสรรพคุณทางยามากกว่าขิงธรรมดา 3 เท่า รสชาติเข้มเต็มรสขิงมากกว่าขิงธรรมดา 5 เท่า จิบก่อนนอนสบายท้อง เข้มข้น เลือดสูบฉีด หลับสบายค่ะ
