top of page
ค้นหา

ปรับความเข้าใจ 5 ความเชื่อที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับประจำเดือน

ree

ประจำเดือนกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน ผู้หญิงเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อที่ผนังมดลูกให้หนาขึ้น เพื่อเตรียมรองรับการตั้งครรภ์ แต่หากไม่มีการปฏิสนธิ เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะหลุดลอกและไหลออกจากช่องคลอดเป็นเลือด “ประจำเดือน”


.


เรื่องประจำเดือนจะมาพร้อมสารพันปัญหา และความเชื่อต่างๆที่เคยได้ยินกันมา วันนี้ครูก้อยรวมรวบความเชื่อที่แม่ๆอาจจะเข้าใจผิดมาทำความเข้าใจกันใหม่นะคะ


1. ห้ามกินน้ำเย็น


เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่า ในช่วงเวลาที่เป็นประจำเดือนต้องห้ามดื่มน้ำเย็น ห้ามกินน้ำแข็ง หรือไอศกรีม เพราะจะทำให้ปวดท้อง


จริงๆแล้วเกิดอาการปวดท้องในช่วงประจำเดือน เกิดจากการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก จากการหลั่งสารที่ชื่อว่า "พรอสตาแกลนดิน" ที่สร้างขึ้นบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกระหว่างมีประจำเดือน ทำให้เยื่อบุมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดื่มหรือทานของเย็นค่ะ


ดังนั้นเราสามารถทานได้ตามปกตินะคะ แต่ไม่ก็ไม่ควรดื่มหรือทานของเย็นในปริมาณเยอะเกินไปนะคะ เนื่องจากจะส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่ออุณหภูมิของร่างกายต่ำลง ก็อาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ส่งผลให้ป่วยได้ง่าย



2. ห้ามกินน้ำมะพร้าว


ความเชื่อนี้แม่ๆหลายคนคงเคยได้ยินมาบ่อยเช่นกันว่า ในช่วงที่ประจำเดือนมาไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าว เพราะอาจจะทำให้รอบเดือนหยุดไหล หรืออาจจะส่งผลให้รอบเดือนมาช้า แต่ความเป้นจริงแล้วยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นในน้ำมะพร้าวมีสาร “phytoestrogen” ที่มีส่วนประกอบคล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง “estrogen”


โดยสารชนิดจะออกฤทธิ์แตกต่างกันขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน ดังนั้นในการดื่มน้ำมะพร้าวอาจมีผลผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย แต่ไม่สามารถสรุปผลได้ว่าจะมีฤทธิ์ในทางเพิ่มหรือลดการบีบตัวหรืออาการปวดประจำเดือนได้อย่างชัดเจนค่ะ



3. ห้ามออกกำลังกาย


แม่ๆสายสุขภาพอาจจะมีความกังวลใจว่าช่วงเวลาที่ประเดือนมาไม่สามารถที่จะออกกำลังได้กายได้ แต่จริงๆแล้วสามารถที่จะออกกำลังกายได้ปกตินะคะ แต่ควรที่จะเลือกกิจกรรมในการออกกำลังกายที่เหมาะสม ซึ่งกิจกรรมการออกกำลังกายในช่วงนี้ควรเน้นไปที่การออกกำลังกายแบบเบาๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากอาการปวดเกร็ง เช่น การโยคะ พิลาทิส เดินลู่ เดินเร็ว



นอกจากนี้ในการออกกำลังกายยังช่วยลดอาการ PMS หรือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนเช่น อาการปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เพราะการออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นค่ะ ดังนั้นในช่วงเวลาประจำเดือนมาแม่ๆก็สามารถที่จะออกกำลังกายได้นะคะ


4. ทานยาขับเลือดเมื่อประจำเดือนมาน้อย


ยาขับเลือดหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ยาสตรี” เป็นยาที่มีส่วนประกอบด้วยสมุนไพร เสริมฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อขับประจำเดือน บางคนอาจจะใช้ยาชนิดนี้เมื่อกรณีประจำเดือนมาน้อยหรือประจำเดือนมาช้า แต่จริงๆแล้วหากเกิดกรณีประจำเดือนมาน้อย หรือประจำเดือนมาช้า แม่ๆก็ไม่ควรที่จะทานยาเองนะคะ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจจะเกิดมาจากสาเหตุอื่นๆ และอีกกรณีหนึ่งในการทานยาประเภทนี้ในปริมาณเยอะๆ และเป็นเวลานานๆก็อาจจะก่อให้เกิดความแปรปรวนของฮอร์โมนเพศได้ หรืออาจจะส่งผลทำให้ตับทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม แนะนำเลยค่ะว่า ให้แม่ๆลองปรึกษาแพทย์หาสาเหตุ ก่อนที่จะตัดสินใจทานยาด้วยตัวเองค่ะ


5. ประจำเดือนจะหยุดไหลเมื่ออยู่ในน้ำ


ในช่วงที่ประจำเดือนมาหลายๆคนอาจจะยังใช้ชีวิตตามปกติ ยังว่ายน้ำหรือเล่นน้ำทะเล เพราะเชื่อว่าเมื่อร่างกายของเราอยู่ในน้ำจะทำให้ประจำเดือนหยุดไหล ซึ่งการหยุดไหลของประจำเดือนจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นในการเล่นน้ำช่วงมีประจำเดือนจึงไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำหรือทะเล เพราะอาจจะเสี่ยงต่อเชื้อโรค สิ่งปนเปื้อน และเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอักเสบนั้นเองค่ะ



ความเชื่อที่อาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องประจำเดือนก็อาจจะส่งผลกระทบต่อแม่ๆ ในการใช้ชีวิต แต่วันนี้ได้ทำความเข้าใจกันใหม่แล้วก็ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันนะคะ นอกจากนี้ถ้าอยากให้รอบเดือนมาตามปกติให้แม่ๆทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ก็จะเป็นการปรับสมดุลฮอร์โมน ก็จะส่งผลให้ประจำเดือนมาปกติค่ะ

Comments


ครูก้อย.jpg

คุยกับครูก้อย/ทีมงาน

ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page