ทานวิตามินบำรุงไข่ OvaAll ยังต้องทานอาหารตามคัมภีร์อีกไหม?
👉อาหาร 70% วิตามิน 30%
คำตอบคือ...ต้องทานอาหารตามคัมภีร์ค่ะ ได้แก่ การกินให้ครบ 5 หมู่ หลักการ คือ ถ้าแม่ๆ จะทานแต่อาหารโดยไม่เสริมวิตามินเลย อาจทำให้ได้สารอาหารไม่ครบ เพราะ อาหาร 5 หมู่ประกอบด้วยอาหาร 3 หมู่หลักหรือที่เรียกว่า Macronutrients ที่เป็น#หมู่หลัก เพราะมันให้พลังงาน ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และ ไขมัน
แต่ห้ามลืมอีก 2 หมู่ ได้แก่วิตามินและแร่ธาตุ หรือที่เรียกว่า Micronutrients เป็น#หมู่รอง ซึ่ง
มันไม่ให้พลังงานแต่ "ขาดไม่ได้" เพราะวิตามินและแร่ธาตุช่วยรักษาสมดุลของระบบต่างๆในร่างกาย พูดง่ายๆว่าเราต้องการมันน้อยกว่าอาหารหมู่หลัก แต่เรา "ขาดมันไม่ได้" เป็นสิ่ง "จำเป็น" ที่เราต้องได้รับให้เพียงพอต่อวันค่ะ
วิตามินบางชนิด ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นมาเองได้ จึงต้องได้รับจากการทานอาหารหรืออาหารเสริม แต่ เจ้าแร่ธาตุนั้น‼️ ร่างกายผลิตเองไม่ได้เลยนะคะ ต้องได้จากการรับประทานเข้าไปเท่านั้น
ทานวิตามินแล้วต้องทานแร่ธาตุใหม?
#ต้องทานค่ะ เพราะวิตามินบางชนิดจะไม่สามารถทำงานและไม่สามารถดูดซึมได้เลยหากไม่มีแร่ธาตุบางชนิดที่ทำงานร่วมกัน
ยกตัวอย่าง ข้อมูลจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดังนี้นะคะ
💊วิตามิน A ทำงานร่วมกับแร่ธาตุอย่าง แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซีลีเนนียม และสังกะสี ได้ดีที่สุด
💊วิตามิน B ต่างๆ ทำงานร่วมกับแร่ธาตุกลุ่มดังกล่าว รวมถึงโคบอลต์ ทองแดง เหล็ก แมงกานีส โพแทสเซียม และโซเดียม
💊วิตามิน C ทำงานร่วมกับแร่ธาตุแคลเซียม โคบอลต์ ทองแดง เหล็กและโซเดียม สำหรับวิตามินดี ได้แก่ แคลเซียม ทองแดง แมกนีเซียม ซีลีเนียม และโซเดียม และสำหรับวิตามิน E ทำงานได้ดีหากได้ร่วมกับแร่ธาตุ แคลเซียม เหล็ก แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซีลีเนียม โซเดียม และสังกะสี เป็นต้น
จากการที่แร่ธาตุช่วยส่งเสริมให้วิตามินมีประสิทธิภาพมากขึ้นนี้ ดังนั้นการทานวิตามินเสริมจะต้องทานที่มีแร่ธาตุอยู่ด้วยเพื่อให้วิตามินดูดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
ทานวิตามินและแร่ธาตุจากอาหารแล้ว ยังต้องทานวิตามินแร่ธาตุเสริมอีกไหม?
แน่นอนว่าวิตามินและแร่ธาตุจากอาหารดีที่สุด มนุษย์เราต้องทานอาหาร เราไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินอาหารเสริม ครูก้อยจึงเน้นหลักการทานอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายเราได้สารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุเพียงพอ
อย่างไรก็ตามในคนที่วางแผนตังครรภ์ เรากำลังเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิงมีบุตรยากเราต้องบำรุงให้ครบถ้วน ตรงจุดและ 100% วิตามินบางชนิดร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีจากอาหารเท่ากับวิตามินสังเคราะ ในทางกลับกัน วิตามินบางชนิดทานจากอาหารดีกว่าทานวิตามินสังเคราะห์ และการดูดซึมได้ดีหรือไม่ยังขึ้นอยู่กับอายุ เพศ ความต้องการของร่างกายในขณะนั้น เช่น หากตั้งครรภ์ต้องการธาตุเหล็กมาก ร่างกายจะดูดซึมได้ดีขึ้น แต่ต้องมีธาตุเหล็กอยู่ในร่างกายเพียงพอ มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อ
ภาวะโลหิตจาง อันตรายต่อทารกในครรภ์ เป็นต้น
อีกประเด็นหนึ่งคือ ในอาหารแต่ละมื้อที่เราทานเข้าไปนั้น เราทานได้มากเพียงพอที่จะได้รับวิตามินเหล่านั้นในปริมาณที่ต้องการต่อวันหรือไม่?
ตัวอย่าง จากข้อมูลจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เช่น
👉วิตามิน C สังเคราะห์มีเพียงกรดแอสคอร์บิกเท่านั้นแต่วิตามิน C ธรรมชาติจะ มีไบโอฟลาโวนอยด์ ซีคอมเพล็กซ์ทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้นมา จึงส่งผลให้วิตามิน C ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
ซึ่งวิตามินซีมีความสำคัญมากต่อคนเตรียมตั้งครรภ์เพราะช่วยยืด "ระยะลูเตียลเฟส" (อ่านรายละเอียดต่อด้านล่างนะคะ👇👇👇) ซึ่งทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ไข่อีกด้วย
👉หรือ เรามีโอกาสขาดวิตามิน D ได้มากกว่าวิตามินอื่นๆ เพราะวิตามิน D ส่วนหนึ่งมาจากการได้รับแสงแดดแต่ชีวิตปัจจุบันเราไม่ได้รับแสงแดดที่ถูกต้อง เพียงพอ ส่งผลให้แคลเซี่ยมไม่พอ เกิดภาวะกระดูกพรุน สำหรับคนเตรียมท้องวิตามิน D สำคัญอย่างมาก เพราะช่วยในการฝังตัวของตัวอ่อน เป็นต้น
👉ประเด็นสำคัญคือ คนเตรียมท้องต้องได้รับวิตามินที่สำคัญ ได้แก่ กรดโฟลิก ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่ต้องทานล่วงหน้าอน่างน้อย 3 เดือนก่อนตั้งครรภ์ เพราะช่วยให้ตัวอ่อนพัฒนาไปอย่างสมบูรณ์ ลดความเสี่ยงทารกพิการแต่กำเนิด มีความกังวลว่าการทานอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงได้ออกมาให้คำแนะนำว่า ผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ทุกคนต้องทานกรดโฟลิกให้ได้ 400 ไมโครกรัมต่อวัน ทุกวัน อย่างน้อยล่วงหน้า 3 เดือนก่อนตั้งครรภ์
โฟลิกมีในผักใบเขียวเข้ม ตับ ไข่ ซึ่งแม่ๆ มั่นใจ
ได้อย่างไรว่าเราทานผักเพียงพอ บางคนไม่ทานผักเลยด้วยซ้ำใช่มั้ยคะ หรือ ต้องกินตับ หรือ ไข่เท่าไหร่ให้ได้โฟลิก 400 ไมโครกรัม
👉และยังมีวิตามินอื่นๆอีกที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงวางแผนตั้งครรภ์ เช่น Fish Oil ที่ช่วยเสริมฮอร์โมนเพศ เพิ่มประสิมธิภาพการทำงานของรังไข่ และ Coenzyme Q10 ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให่กับเซลล์ไข่ ทำให้ตัวอ่อนมีคุณภาพ เพิ่มอัตราการฝังตัว ซึ่งวิตามินเหล่านี้ต้องได้รับจากปลาทะเลน้ำลึก และ เครื่องในสัตว์ตามลำดับ
เราอาจไม่ได้ทานปลาทูน่าหรือแซลมอนทุกวัน หรือจะทานเครื่องในสัตว์ปริมาณมากก็เสี่ยงคอเลสเตอรอลใช่มั้ยล่ะคะ
💊ดังนั้นการทานวิตามินเสริมจึงเป็นคำตอบนั่นเองค่ะ
📰ครูก้อยเขียนอธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของวิตามินและแร่ธาตุต่อผู้หญิงวางแผนตั้งครรภ์ไว้อย่างละเอียดแล้ว อ่านเพิ่มเติมที่ลิงค์นี้ค่ะ
👇👇👇👇
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1157406178044613&id=349798678805371
หากคนรักสุขภาพปกติ ไม่ได้เตรียมตั้งครรภ์ การทานอาหารถูกหลักโภชนการให้ครบ 5 หมู่อาจเพียงพอ อย่างไรก็ตาม Dr.Sesso เป็นนายแพทย์ทางด้านระบาดวิทยา epidemiologist จาก Harvard-affiliated Brigham and Women's Hospital แนะนำว่า มนุษย์เราควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็เพียงพอ หากต้องเสริมวิตามินก็ควรเสริมส่วนที่เราคิดว่าเราขาด หรือได้รับไม่เพียงพอ เช่น วิตามิน D และมองหาวิตามินและแร่ธาตุเสริมที่จำเป็นเช่น วิตามิน B, D, folate, iron, calcium, magnesium เป็นต้น
สำหรับคนที่เตรียมตั้งครรภ์ และยิ่งเป็นคนท้องยาก!! ขอเวลาอย่างน้อย 3 เดือนในการเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด ครูก้อยให้หลักคิดเลย
ว่า....
"ใน 3 เดือนนี้ เราจะมีสุขภาพที่ healthy กว่า 10 ปีที่ผ่านมา" และมันจะเป็นช่วงเวลาที่พร้อมที่สุดที่เราจะมีลูก
คนบำรุงเตรียมตั้งครรภ์จึงต้องบำรุงให้ครบ💯อาหาร 70% วิตามิน 30% ค่ะ
ทานอาหารครบ 5 หมู่ คือทานอย่างไร?
บอกเลยว่าไม่ใช่ทานอะไรก็ได้นะคะ ต้องเลือกทานตามหลักโภชนาการที่ถูกต้อง ครูก้อยศึกษาค้นคว้างานวิจัยและสรุปหลักการทานอาหารเป็น 🔑5 Keys to Success ดังนี้ค่ะ
1.เพิ่มโปรตีน
2.ลดคาร์บ
3.งดหวาน
4.ทานกรดไขมันดี
5.เน้นสารแอนตี้ออกซิแดนท์
📰ครูก้อยเขียนอธิยายอย่างละเอียดยิบว่าในแต่ละข้อต้องทานอย่างไร ทานอะไรบ้าง คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้นะคะ 👇👇👇👇
https://www.facebook.com/349798678805371/posts/1166714310447133/
คำถามยอดฮิต ทานวิตามินบำรุงไข่แล้วยังต้ องทานโปรตีน Ferty ไหม?
โปรตีน Ferty มันก็คืออาหารค่ะ เป็นอาหารในหมู่หลักที่ให้โปรตีนบริสุทธิ์สูงถึง 90% เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้สตรีวางแผนตั้งครรภ์โดยเฉพาะ เป็นโปรตีนจากพืช (Plant-based Protein) ที่ให้โปรตีนชนิดดีสำหรับแม่ๆที่บำรุงไข่ หรือ เตรียมผนังมดลูก
การทานโปรตีน Ferty จึงเป็นการทานอาหารหมู่ หลักที่ขาดไม่ได้และสำคัญที่สุด แม่ๆต้องได้รับโปรตีนที่เพียงพอต่อน้ำหนักตัวต่อวัน ยิ่งคน
เตรียมท้องควรได้รับโปรตีน 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อจะได้สร้างเซลล์ไข่ให้สมบูรณ์ สร้างผนังมดลูกให้แข็งแรง และโปรตีนยังเป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนและเอ็นไซม์ ทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
👉ครูก้อยจึงแนะนำให้ทานโปรตีน Ferty เป็นหลักเอาไว้วันละ 2 ซอง เพราะ Ferty 1 ซองให้โปรตีน 25 กรัม ทาน 2 ซอง maintain ไว้ที่ 50 กรัมต่อวัน แล้วแม่ก็ทานเพิ่มจากอาหารที่ให้โปรตีนจากแหล่งอื่น เช่น ถั่วอัลมอนด์ งาดำ เมล็ดฟักทอง ไข่ ปลาแซลมอน อกไก่ นมแพะ เป็นต้น โดยเน้นทานโปรตีนจากพืชนะคะ หากทานโปรตีนจากสัตว์ให้ เน้นปลา ไข่ นมแพะ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ เนื้อแดง เนื้อติดมันที่มีไขมันสูงและอาจมีฮอร์โมนเร่งเนื้อแดงตกค้างมาด้วย
การเลือกรับประทานโปรตีนจากพืชจะช่วยลดความเสี่ยงภาวะไข่ไม่ตกซึ่งเป็นสาเหตุของการมีบุตรยากค่ะ
📚งานวิจัยจาก Harvad School of Public Health พบว่าผู้หญิงกินโปรตีนจากสัตว์จำนวนถึง 39% จะประสบปัญหาภาวะที่มีบุตรยากมากกว่าผู้หญิงที่กินโปรตีนจากพืช
📚 ยังมีอีกงานวิจัยหนึ่งชื่อว่า
ที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal if obstetrics and gynocology
ศึกษาพบว่าผู้หญิงที่เปลี่ยนการรับประทานโปรตีนจากสัตว์มาเป็นโปรตีนจากพืชช่วยลดความเสี่ยงจากการมีบุตรยากเนื่องปัญหาเรื่องไข่ไม่ตกได้ถึง 50%
📱แม่ๆ คลิกชมความสำคัญของโปรตีนต่อคนวางแผนท้องที่คลิปนี้ค่ะ ครูก้อยอธิบายไว้ให้แล้ว 👇👇👇👇
https://youtu.be/C0QYC2aDQZM
ทานวิตามินบำรุงไข่แล้วยังต้องกระดกน้ำมะกรูดครูก้อยอีกไหม?
🍋ตอบเลยว่า "#ต้องกระดกค่ะ" น้ำมะกรูด SHOT ของครูก้อยมันก็คืออาหารที่ให้...
✔วิตามินC ✔"ไบโอฟลาโวนอยด์" และ ✔สารต้านอนุมูลอิสระ "เควอซิทีน"
จากที่กล่าวข้างต้น แม่ๆ ทานวิตามินซีแบบเสริมเข้าไปจะไม่ได้ "ไบโอฟลาโวนอยด์" ค่ะ เลือดไม่สูบฉีดนะคะ คนเตรียมตั้งครรภ์เลือดต้องไหลเวียนดี ไบโอฟลาโวนอยด์จะทำงานร่วมกับวิตามินซี ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกได้อย่างเพียงพอ เพิ่มสภาวะมเลูกอุ่น นอกจากนี้ไบโอฟลาโวนอยด์ยังช่วยลดการอักเสบติดเชื้อในมดลูก และยังช่วยยืดระยะ "ลูเตียลเฟส" ได้อีกด้วย
📚มีงานวิจัยจาก The University of Texas ศึกษาพบว่ามีผู้หญิงเพียง 11% เท่านั้นที่ตั้งท้องโดยไม่ทานวิตามินซี ผู้หญิง 53% ที่ทานวิตามินซีจะมีช่วงลูเตียลเฟส (Luteal Phase) ยาวขึ้น การได้รับไบโอฟลาโวนอยด์จะส่งผลให้วิตามินซีดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
👉ลูเตียล เฟส คือระยะหลังการตกไข่ที่ระดับ
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น ร่างกายจะสร้างมดลูกให้หนาขึ้น พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน หากช่วงระยะเวลานี้สั้นโกาสในการฝังตัวของตัวอ่อนก็ลดลง)
🍋ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่คนท้องยากต้องกระดกน้ำมะกรูด SHOT ควบคู่ไปกับวิตามิน OvaAll ค่ะ
📱แม่ๆเข้าไปชมคลิปครูก้อยอธิบายน้ำมะกรูดกับการช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์เอาไว้อย่างละเอียด คลิกชมเลยค่ะ 👇👇👇👇
https://youtu.be/6Jme0DMhIvI
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ไขข้อข้องใจให้กระจ่างแล้ว อย่าลืมนะคะ บำรุงเตรียมตั้งครรภ์ "อาหารก็ต้องกิน วิตามินก็ห้ามขาด" อาหาร 70% วิตามิน 30% เตรียมท้องต้องเต็ม 💯
เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด มีวินัยอย่างเคร่งครัดในการกินบำรุงแบบนี้ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์หรือปล่อยท้องธรรมชาติ แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งใหญ่คุ้มค่าสมกับความพยายามของแม่ๆค่ะ
