ลดคอเลสเตอรอลอย่างไรให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์
top of page
ค้นหา

ลดคอเลสเตอรอลอย่างไรให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์



สำหรับคุณแม่ที่อยากมีลูกแต่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปจนไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เหมือนคุณพ่อคุณแม่ทั่วไป อาจกำลังหาทางลดคอเลสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในระดับมาตรฐานด้วยวิธีที่ทั้งง่ายและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง วันนี้ครูก้อยจะมาแนะนำวิธีลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายอย่างไรให้กลับมาหุ่นเฟิร์ม พร้อมต่อการตั้งครรภ์มากที่สุด ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านไปด้วยกันเลยค่ะ


6 วิธีลดคอเลสเตอรอลอย่างไร ให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์


1. ออกกำลังกายลดน้ำหนัก


การออกกำลังกายเป็นประจำ สำหรับการออกกำลังกายลดคอเลสเตอรอลมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ หัวใจทำงานเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้ถึง 10% ด้วยนะคะ แถมยังช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีอีก 6% ส่วนการ เล่นโยคะ ก็ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ แถมยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่กล้ามเนื้ออีกด้วยค่ะ หรือแม้แต่การ รำไท่เก๊ก (Tai-Chi) ที่ปรับสมดุลภายในร่างกายและลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้ถึง 15% และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีได้ถึง 7% ค่ะ


2. พักผ่อนให้เพียงพอ


รู้ไหมคะว่าการนอนหลับพักผ่อนที่น้อยเกินไปอาจนำไปสู่ระดับ LDL ที่สูงขึ้น จากผลการวิจัยของ Journal of Cardiovascular Nursing พบว่าผู้หญิงที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง หรือนอนมากกว่า 8 ชั่วโมง/วัน จะมีระดับไขมันดีลดลงและมีระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูงขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น (Cortisol) ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะสัมพันธ์กับคอเลสเตอรอลโดยตรง เพราะหากร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลมากเท่าไหร่ ก็จะกระตุ้นให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทางที่ดีคุณแม่เตรียมท้องควรปรับเวลานอนให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยทั่วไปผู้หญิงในช่วงวัยเจริญพันธุ์ควรพักผ่อนวันละประมาณ 7-8 ชั่วโมง


3. งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


สารพิษจากบุหรี่ ทั้งสารนิโคตินและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ มีฤทธิ์กระตุ้นระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ให้สูงขึ้นและลดไขมันดีลง อีกทั้งลดความยืดหยุ่นของเส้นเลือด เลือดจึงแข็งตัวเร็วขึ้นและเกิดลิ่มเลือด ส่งผลให้เกิดผนังหลอดเลือดแดงเสื่อมไวขึ้น หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ หรือโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้อง เป็นต้น


4. จัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม


เมื่อคุณเครียดมาก ๆ จะกระตุ้นให้ต่อมไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ผลิตฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) และฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งไปกระตุ้นให้ตับผลิตคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายไม่ได้นำคอเลสเตอรอลไปใช้ก็จะถูกเปลี่ยนและสะสมเป็นไตรกลีเซอไรด์ แล้วตามมาด้วยปัญหาสุขภาพอย่าง กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากภาวะหลอดเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น


ทางที่ดีคุณแม่เตรียมท้องควรหาวิธีลดความเครียดด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบหรือหากิจกรรมทำใหม่ อย่างเช่น นั่งสมาธิ อ่านหนังสือ ฟังเพลงบรรเลง ถักนิตติ้ง เล่นโยคะ และอีกหนึ่งวิธีแก้เครียดที่ครูก้อยแนะนำให้ที่ใครหลายคนมองข้ามนั่นคือการจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้เป็นไปตามแผน ไม่นำงานไปทำนอกเหนือจากเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อหมดเวลางานก็ควรใช้เวลากับตัวเองหรือครอบครัวให้เต็มที่ค่ะ


5. เลือกรับประทานอาหารที่มี


โดยอาหารที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้นั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวจากอาโวคาโด, โพลีฟีนอล (Polyphenol) จากน้ำมันมะกอก, เบต้ากลูแคนอัน (Beta-Glucan) จากธัญพืช, สารอัลลิซิน (Allicin) จากกระเทียม, โปรตีนจากพืชอย่างถั่วเหลือง, ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และอื่น ๆ อีกมาก โดยอาหารที่ครูก้อยแนะนำนี้ นอกจากจะมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลแล้ว ยังช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี จึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด, โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง อีกทั้งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบอีกด้วยค่ะ


6. ทานไขมันดี


หลายคนอาจเอะใจว่าไขมันเป็นตัวการที่ทำให้อ้วนและมีลูกยากไม่ใช่เหรอคะ ก็ถูกค่ะ เพียงแต่ไม่ถูก 100% เนื่องจากไขมันมี 2 ประเภท ได้แก่ ไขมันดีหรือ HDL (High Density Lipoprotein) และไขมันเลวหรือ LDL (Low Density Lipoprotein) สำหรับไขมันดีจะทำหน้าที่นำพาไขมันเลวและไตรกลีเซอไรด์ออกจากหลอดเลือดแดงและเนื้อเยื่อเพื่อส่งไปยังตับและกำจัดออกจากร่างกายผ่านทางน้ำดี เพราะหากปล่อยให้ร่างกายสะสมไขมันเลวและไตรกลีเซอไรด์เป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดเส้นเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดแดงตีบแข็ง จนกลายเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต


สำหรับอาหารที่ครูก้อยแนะนำจะเป็น Ferti 9 Oil By KruKoy (เฟอร์ติ ไนน์ ออยล์ บาย ครูก้อย) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจน หากคุณแม่ได้รับไขมันดีในปริมาณมากขึ้น ก็จะส่งผลต่อการสร้างเอสโตรเจนดีขึ้น ช่วยปรับฮอร์โมนเพศให้สมดุล ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตให้แก่ไข่และเพิ่มคุณภาพเซลล์ไข่ให้ไข่สุก เพิ่มโอกาสปฏิสนธิกับสเปิร์มง่ายขึ้น โอกาสตั้งครรภ์จึงเพิ่มมากขึ้นตามด้วยค่ะ


Ferti 9 Oil ผลิตจากน้ำมันธัญพืช 9 ชนิด ได้แก่ น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันอะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, น้ำมันสาหร่ายทะเล, น้ำมันงาขี้ม้อน, น้ำมันฟักข้าว, น้ำมันกระเทียม, น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ และน้ำมันงาขาว อุดมไปสารอาหารสำคัญต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA), กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA), โอเมก้า 3 อุดมไปด้วย EPA และ DHA, มีเบต้าแคโรทีนในปริมาณที่สูงกว่าแครอทถึง 10 เท่า, มีไฟโตเอสโตรเจน (ลิกแนน) สูงกว่าพืชชนิดอื่นถึง 75 เท่า ช่วยบำรุงเยื่อบุโพรงมดลูกและผนังมดลูกให้แข็งแรง, ช่วยยืดอายุเซลล์ไข่ เพิ่มคุณภาพเซลล์ไข่ และกระตุ้นการตกไข่ ควบคุมระดับเทสโทสเตอโรน นอกจากนี้ยังช่วยเยียวยาภาวะ PCOS หรือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ยากขึ้นด้วยค่ะ



บทความที่น่าสนใจ

  • ครรภ์ไข่ปลาอุกอันตรายแค่ไหน ทำไมถึงเป็นฝันร้ายของคุณแม่ตั้งครรภ์

  • ลดริ้วรอยได้ไม่ยาก เพียงแค่เติมสารอาหารจากธรรมชาติ

  • สิวคนท้องเกิดจากอะไร ทำไมวิตามินซีถึงช่วยได้

ดู 8 ครั้ง0 ความคิดเห็น
ครูก้อย.jpg

คุยกับครูก้อย/ทีมงาน

ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page