10 ข้อ กินผิด ติดลูกยาก!
แม่ๆ รู้ไหมโภชนาการส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ อาการที่เรากินเข้าไปคือปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อความสมบูรณ์พร้อมของร่างกายในการพร้อมรับการตั้งครรภ์
📚จากงานวิจัยเรื่อง
The Influence of Diet on Fertility and the Implications for Public Health Nutrition in the United States ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Public Health, Population, Reproductive and Sexual Health เมื่อปี 2018
เปิดเผยว่า การรับประทานอาหารส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ของทั้งหญิงและชาย โดยการหลีกเลี่ยงการทานไขมันอิ่มตัว (ไขมันทรานส์ ) เน้นทานพวกธัญพืชไม่ขัดสี ผักผลไม้ และ โปรตีนจากปลา ส่งผลต่อดีต่อภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิงและส่งผลให้สปิร์มมีคุณภาพมากขึ้นในผู้ชาย
ในขณะที่แอลกอฮอล์ คาเฟอีน ของหวาน(น้ำตาล) และไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) คือตัวร้ายที่ทำให้มีบุตรยาก (Infertility)เพราะทำให้เซล์เสื่อมและแก่
ยิ่งไปกว่านั้นงานวิจัย ยังชี้เฉพาะเจาะจงไปถึงการรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ และการเน้นโปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein) โดยผู้หญิงที่เน้นทานโปรตีนจากพืช ทานผักผลไม้ ทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (ข้าวไม่ขัดสี ธัญพืชต่างๆ) ทานไขมันดี (โอเมก้า 3 ) ทานแร่ธาตุที่สำคัญ อันได้แก่ โฟเลต สังกะสี และธาตุเหล็ก พบว่ามีความเสี่ยงที่อยู่ในภาวะมีบุตรยากน้อยลงถึง 66% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ทานอาหารตามรูปแบบข้างต้น
ดังนั้นการทานอาหารจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากต่อ Fertility ค่ะ ต้องทานให้เพียงพอ ทานให้ครบ ทานที่มีประโยชน์เท่านั้น (ถ้าอยากท้อง)
❌ไม่ใช่แค่กินอะไรก็ได้
✅แต่ต้องกินให้ได้สารอาหารให้ครบ 5 หมู่ อันได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ
หากยังเน้นทานอะไรก็ได้ ตามใจปาก บอกเลยว่าคุณกำลังมาผิดทางนะคะ ตั้งใจบำรุงจริงจังต้องทานให้ครบ 5 หมู่ โปรตีนต้องถึง กินคาร์บเชิงซ้อน กินผักผลไม้และไขมันดี ต้องกินแบบนี้ค่ะถึงจะ boost fertility ได้ และให้งดพฤติกรรมการทานอาหารดังต่อไปนี้ค่ะ
1. กินหวาน
แม่ๆ รู้มั้ยคะว่า "น้ำตาล" คือตัวร้ายทำลายเซลล์ รวมไปถึงเซลล์ไข่ของแม่ๆ การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป หรือ ทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ที่เป็นแป้งเชิงเดี่ยว พวกข้าวขาว ขนมเค้ก เบเกอรี่ต่างๆ ซึ่งท้ายที่สุดเมื่อผ่านกระบวนการย่อยร่างกายก็จะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล ชอบทานแบบนี้ส่งผลให้เซลล์ไข่เสื่อม
เสี่ยงเบาหวาน กระตุ้นอาการ PCOS ทำให้ร่างกายอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหุตของการมีบุตรยากทั้งสิ้น มาค่ะ ครูก้อยสืบค้นมาให้แล้ว เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะคะ
งานวิจัยของ "The American Society of Reproductive Medicine" (ASRM) พบว่า
การทานอาหารแบบลดน้ำตาลลง ส่งผลอย่างมากต่ออัตราการตั้งครรภ์ ซึ่งผู้ที่ทานอาหารไม่หวาน จะมีอัตราการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นจาก 16.6% เป็น 83% เลยทีเดียวค่ะ
และผู้ที่จะเข้ากระบวนการทำเด็กหลอดแก้วที่เปลี่ยนการรับประทานอาหารเป็นแบบลดคาร์โบไฮเดรต และ เน้นโปรตีนเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะเข้ากระบวนการมีอัตราการเพิ่มจำนวนของบลาสโตซิสต์ (blastocyst) จาก19% เป็น 45%
นอกจากการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคเบาหวานตามมาได้แล้ว หากกินน้ำตาลมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิด "ภาวะดื้อต่ออินซูลิน" ด้วย ซึ่งอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล เมื่อผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นก็จะเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานมากกว่าปกติ
มีงานวิจัยอีกฉบับหนึ่งพบว่าการบริโภคน้ำตาลทุกๆ 150 แคลอรี่ อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานสูงขึ้นถึง 1.1 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งโรคเบาหวานกับการมีบุตรยากเป็นเรื่องที่แพทย์และนักวิจัยได้ศึกษาและมีผลวิจัยออกมาอย่างชัดเจนแล้ววาผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นมีระดับกลูโคสในเลือดสูง ซึ่งระดับกลูโคสในเลือดสูงนี้เป็นภัยต่อการพัฒนาของบลาสโตซิสต์ (blastocyst)ค่ะ
ระดับของกลูโคสส่งผลต่อการมีบุตรยากดังนี้ค่ะ
(1) การมีระดับกลูโคสในเลือดสูงทำให้การหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข หรือ "อะดรีนาลีน" ลดลง เมื่อร่างกายมีความเครียดจะมีผลให้ให้ฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งจะส่งผลต่อการที่ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับวงจรการมีประจำเดือน เมื่อประจำเดือนมาไม่ปกติส่งผลต่อการมีบุตรยากค่ะ
(2) การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุในการเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS หากเกิดภาวะดื้ออินซูลิน (insulin resistance) ขึ้นและที่ร้ายไปกว่านั้นมันสามารถทำลายเซลล์ไข่ได้เลยค่ะ
(3) น้ำตาลส่งผลต่อโรคอ้วน หรือน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความเสื่อมของสเปิร์มและเซลล์ไข่ ก่อนวัยอันควร
ดังนั้นระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปจึงไม่ส่งผลดีต่อแม่ๆ ที่วางแผนตั้งครรภ์แน่นอนค่ะ เพราะจะก่อให้เกิดโรคเบาหวาน ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ฮอร์โมนไม่สมดุลซึ่งเป็นสาเหตุของการมีบุตรยากทั้งสิ้นค่ะ
.
.
💗แม่ๆ ที่วางแผนท้อง การให้ความสำคัญกับโภชนาการจึงสำคัญที่สุดค่ะ เน้นทานโปรตีน เน้นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ ธัญพืชต่างๆ ข้าวกล้อง แฟล็กซีด งาดำ เมล็ดฟักทอง ควินัว ถั่วต่างๆ เป็นต้น เพิ่มการทานโปรตีน รวมทั้งออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เซลล์ไข่สมบูรณ์และร่างกายแข็งแรงในองค์รวม เบบี๋มาไม่นานเกินรอค่ะ
.
2. กินไขมันทรานส์
#ไขมันทรานส์ เกิดจากกระบวนการอุตสาหกรรม มีการปรับโครงสร้างของไขมัน เพื่อให้น้ำมันเป็นของแข็งในอุณหภูมิห้อง ทำให้เก็บได้นาน ไม่เหม็นหืน
ไขมันทรานส์พบมากในมาการีน เนยขาว พวกขนมเบเกอรี่ โดนัท เค้ก พาย คุกกี้ และพวกอาหาร fast food เบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ขนมกรุบกรอบ
.
👉แม่ๆรู้ไหม กินไขมันทรานส์ส่งผลให้ท้องยาก
📚จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition ได้ทำการศึกษาผู้ญิงที่สุขภาพดี ที่ต้องการมีบุตร โดยศึกษาพฤติกรรมการทานอาหาร พบว่า ทุก 2% จากการทานไขมันทรานส์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ท้องยากขึ้น
73% เพราะมีก่อให้เกิดความเสี่ยงภาวะไม่ตกไข่!
เนื่องจากไขมันทรานส์ส่งผลให้ร่างกายอักเสบ ส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของน้ำตาลกลูโคสทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ส่งผลให้ฮอร์โมนเพศผิดเพี้ยน เกิดภาวะ PCOS ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ประจำเดือนผิดปกติ
.
.
ดังนั้นให้เลิกทานไขมันตัวร้ายกันได้แล้วค่ะ ปัจจุบันมีกฎหมายเรื่องการควบคุมไขมันทรานส์ และให้ระบุปริมาณไขมันทรานส์ไว้บนฉลากโภชนาการด้วย โดยหลักคือถ้ามีส่วนประกอบของไขมันทรานส์น้อยกว่า 0.5 g ให้ระบุบนฉลากได้ว่า Trans Fat 0.0 กรัม ดังนั้นถึงแม้เราจะหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ แต่ก็ได้รับมันบางส่วนอยู่ดี ทางที่ดีคือหลีกเลี่ยงอาหารพวกนั้นไปเลยค่ะ
ส่วนพวกอาหาร fast food เค้ก เบเกอร์รี่ ที่เรากิน แน่นอนมันไม่มีฉลากโภชนาการบอก ดังนั้นให้ลดการบริโภคลง กินแต่น้อย แล้วปรับมาทานไขมันดี
กันค่ะ
อาหารที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์
❌️เบอร์เกอร์
❌️เฟรนช์ฟรายส์
❌️พิซซ่า
❌️ขนมขบเคี้ยว
❌️เบเกอรี่
❌️เนยเทียม
❌️ป๊อบคอร์น
❌️น้ำมันจากพืชบางชนิด
อาหารที่ให้ไขมันดี
✅️Fish Oil
✅️งาดำ
✅️เมล็ดฟักทอง
✅️นมแพะ
✅️ไข่แดง
✅️อะโวคาโด
✅️แฟล็กซีด
✅️ปลาแซลมอน
ปรับพฤติกรรมการกินตั้งแต่วันนี้ นอกจากเป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรง เฮลตี้ไปด้วยนะคะ
.
3. กินกาแฟ
คอกาแฟ ดื่ม เช้า สาย บ่าย เย็น ต้องลดค่ะ การดื่มคาเฟอีนมากกว่า 250 mg ต่อวันส่งผลต่อการมีบุตรยากเพิ่มขึ้น 45%
หากจะดื่มก็ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ได้แก่วันละ 1 แก้ว (250-300 mg) ต่อวันค่ะ
.
4. กินเย็น
สำหรับแม่ๆที่อยากมีลูกควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น ทานของเย็นจัดเป็นประจำ เพราะจะส่งผลให้น่างกายเย็น มดลูกเย็น เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ควรดื่มน่ำอุณหภูมิห้อง และเน้นทานอาหารที่มีฤทธิ์อุ่น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนนำพาสารอาหารไปเลี้ยงมดลูกได้อย่าง
เพียงพอ มดลูกไม่อักเสบติดเชื้อ มีสภาวะอุ่น ตัวอ่อนฝังตัวได้ง่ายขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ควรทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ได้แก่ ซุปไก่ดำตังกุยสดตุ๋นเครื่องยาจีน ขิงดำ น้ำมะกรูด และชาดอกคำฝอย
.
5. กินอาหารแปรรูป
●อาหารแปรรูป ( Processed food) คืออะไร?
อาหารแปรรูปคืออาหารหรือเครื่องดื่มทุกชนิดที่ผ่านการแปรรูปไปจากเดิมเพื่อยืดอายุการเก็บ หรือเพิ่มเติมแต่งสี กลิ่น รสชาติ เป็นต้น
ในปัจจุบัน 75% ของอาหารที่เรารับประทานผ่านการแปรรูปทั้งนั้นค่ะ เช่น ปลากระป๋อง ถ้าเราซื้อปลาสดในตลาดมาปรุงอาหารแบบนี้ไม่แปรรูป ซื้อเนื้อไก่ เนื้อหมูสดมาแช่เย็นไว้ แบบนี้ไม่แปรรูป แต่ถ้าเราชอบกินพวก หมูยอ ไส้กรอกหมู แหนม กุนเชียง พวกนี้คือแปรรูปค่ะ
ส่วนพวกเครื่องดื่ม น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่โฆษณาว่าทำจากน้ำผลไม้แท้ๆก็แปรรูปทั้งหมดค่ะ เพราะต้องมีการใส่สารเพื่อยืดอายุ เว้นแต่ เรากินน้ำผลไม้คั้นสดจริงๆ รวมไปถึงกาแฟ เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
และอาหารประเภท ready to eat พวกเป็นอาหารแช่แข็ง เอาเข้าไมโครเวฟแล้วทานได้ พวกนี้คืออาหารที่ผ่านการแปรรูป รวมไปถึงพวก Junk food และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่างๆด้วยค่ะ
จะเห็นว่าอาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่สะดวกและอร่อย เก็บได้นานและอุตสาหรรมอาหารก็มุ่งเน้นผลิตอาหารประเภทนี้ให้ตอบรับกับพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิตในปัจจุบัน...แต่แม่ๆ รู้ไหมว่าหากเราทานแต่อาหารพวกนี้มันจะนำไปสู่สภาวะร่างกายที่ไม่แข็งแรง ฮอร์โมนไม่สมดุลและส่งผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์
.
●เพราะเหตุใดอาหารแปรรูปจึงอันตราย😨?
แม่ๆ รู้ไหมในอาหารแปรรูปเต็มไปด้วยสารเคมีที่ใช้แต่งรส แต่งกลิ่น แต่งสี ยืดอายุอาหาร โซเดียมสูง น้ำตาลสูงและไขมันทรานส์สูง ซึ่งสารเหล่านี้ส่งผลต่อภาวะดื้ออินซูลิน เบาหวาน โรคอ้วน ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกายรวมไปถึงระบบสืบพันธุ์ เมื่อมีภาวะอ้วน เบาหวาน ดื้ออินซูลิน ส่งผลต่อฮอร์โมนเพศผิดเพี้ยน ประจำเดือนผิดปกติ รังไข่ทำงานผิดปกติ ไข่ไม่โต ไข่ไม่ตก ท้องยาก!
.
.
📚มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับอาหารแปรรูปที่ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ดังนี้
👨ในผู้ชาย ผู้ชายที่ทานอาหารแปรรูปอย่างน้อย 2-5 มื้อต่อวันมีตัวสเปิร์มที่มีรูปร่างปกติน้อยกว่าผู้ชายที่ทานอาหารแปรรูปน้อยกว่า 1 มื้อต่อวัน
ในอาหารแปรรูปเช่นไส้กรอก น้ำอัดลม เบอร์เกอร์
พิซซ่า เฟรนซ์ฟราย มี Anabolic steroids ซึ่งเป็นสารที่มีโครงสร้างและการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาคล้ายฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งจะไปรบกวนฮอร์โมนเพศชายจริงๆในร่างกาย ส่งผลต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่สมดุล ทำให้ผลิตสเปิร์มที่ด้อยคุณภาพ
👩ในผู้หญิง การทานอาหารแปรรูปเป็นประจำส่งผลต่อคุณภาพของเซลล์ไข่ การเจริญเติบโตของฟองไข่ ทำให้ตัวอ่อนไม่มีคุณภาพ เพราะในอาหารแปรรูปมี xenoestrogen เป็นสารที่คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง หากได้รับเข้าไปมากๆมันจะไปทำลายสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีอยู่ตามธรรมชาติของเราค่ะ
และหากตั้งครรภ์แล้วยังชอบทานอาหารแปรรูป น้ำหวานต่างๆ อาจส่งผลต่อการแท้ง และการคลอดก่อนกำหนด
ผู้หญิงที่ชอบทานอาหารแปรรูปที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงพวก (GI) ขนมปังขาว ไขมันทรานส์ พวกเนยในขนมเค้ก คุกกี้ ขนมขบเคี้ยว ส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนการตกไข่ ทำให้ไข่ไม่ตก ท้องยากค่ะ
รู้ไหมคะว่า ทุก 2% ของการการทานไขมันทรานส์
ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการทำให้มีความเสี่ยงภาวะไม่ตกไข่สูงถึง 73%
.
.
●แล้วเราควรเลือกรับประทานอาหารอย่างไร?
เลือกทานอาหารที่เป็น whole food ค่ะ คืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด ถ้าแปรรูปคือเพื่อถนอมอาหาร ไม่มีการใช้สารแต่งสี รส กลิ่นหรือยืดอายุใดๆ ทานผักผลไม้สด แป้งไม่ขัดสี ธัญพืช เช่น งาดำ เมล็ดฟักทอง แฟล็กซีด ถั่วต่างๆ พวกนี้ค่า GI ต่ำ ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังมีกรดไขมันดี ช่วยบำรุงรังไข่
เนื้อสัตว์ไม่แปรรูป ปลาสด ไก่สด ไข่ไก่ ปรุงรสให้น้อยที่สุด ใช้ซอสปรุงรสโซเดียมต่ำ ใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงอาหาร
งดน้ำหวาน ของหวาน เค้ก คุกกี้ที่ใช้เนยเทียม งดเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ น้ำอัดลม
.
.
ปรับเปลี่ยนการทานอาหาร ลดการบริโภคอาหารแปรรูป เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ฮอร์โมนที่สมดุล เซลล์ไข่และสเปิร์มมีคุณภาพ เป็นการดูแลร่างกายให้พร้อมตั้งครรภ์ และเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้นค่ะ
.
6. กินกลูเต็น
กลูเตน (Gluten) เป็นไกลโคโปรตีนที่พบได้ในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพด ซึ่งในปัจจุบันเราใช้กลูเตนในการผลิตขนมปัง ช่วยให้ขนมปังเหนียวนุ่ม น่ารับประทาน รวมทั้งในข้าวโอ๊ต เค้ก พาย ซีเรียล และใช้แทนเนื้อสัตว์ในอาหารเจอีกด้วย
การแพ้กลูเตน (Gluten Intolerance) โรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบการย่อยทางพันธุกรรมไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เกิดขึ้นเมื่อกลูเตนซึ่งไม่สามารถสามารถย่อยผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการเช่นเดียวกับการแพ้นม ผู้แพ้กลูเตนอาจมีอาการท้องอืด มีก๊าซในกระเพาะ และท้องเสีย แต่ไม่มีการอักเสบของลำไส้อย่างรุนแรง
แม่ๆ ที่วางแผนตั้งครรภ์ควรเลี่ยงอาหารที่มีกลูเต็น เพราะอาจเสี่ยงแพ้และส่งผลให้ร่างกายอักเสบ บางครั้งเราแพ้แบบแพ้แฝง ไม่มีอาการแพ้ แต่ร่างกายมันอักเสบอยู่เป็นประจำ
เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไปเพียงเล็กน้อย อาจก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้ ซึ่งอาจไม่แสดงอาการแพ้อาหารอย่างเฉียบพลันแบบ Food allergy เช่น ผื่นขึ้น ตาบวม อาเจียน ท้องเสีย
แต่การแพ้แบบแฝงจะใช้เวลานานในการแสดงอาการ มักแสดงอาการหลากหลาย แต่ไม่รุนแรง มีอาการเรื้อรัง ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการนั้นๆ แม้อาการแพ้ไม่รุนแรง แต่ก็อาจเป็นเบื้องหลัง
ของอาการน่ากวนใจบางอย่าง เช่น ท้องอืด มีผื่นคัน ปวดหัว ไมเกรน เป็นต้น
ซึ่งส่งผลให้ร่างกายไม่ปกติ "อักเสบ" เกี่ยวเนื่องกับการทำงานของระบบสืบพันธุ์ด้วย
.
7. กินนมวัว
น้ำตาลในนมวัว คือ น้ำตาลแลคโตส คนที่มีภาวะไม่ทนต่อ “แลคโตส” ที่อยู่ในนมวัว เมื่อดื่มเข้าไปจะมีอาการที่ตอบสนองของระบบทางเดินอาหารหลังจากดื่มนมหรือกินผลิตภัณฑ์จากนมได้ไม่นาน เช่น ท้องอืด เรอ ผายลม ท้องเสีย เพราะน้ำตาลแล็กโตสที่ไม่ถูกย่อยนั้นจะเกิดการหมักขึ้นจากแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้มีแก๊สต่างๆ เกิดขึ้นในท้อง
นอกจากนี้น้ำตาลในนมวัวอาจส่งผลต่อการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับแม่ๆที่เป็น PCOS ควรเลี่ยงเพราะจะส่งให้ร่างกายอักเสบยิ่งขึ้น และอาจเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะอินซูลินซึ่งเป็นสาหตุหนึ่งที่
ทำให้อาการ PCOS แย่ลง
ครูก้อยแนะนำ🤰วางแผนท้อง อยากบำรุง จะเน้นไปที่นมพืช เช่น นมอัลมอนด์ นมพิทาชิโอ้ นมวอลนัท ถ้าเป็นนมสัตว์ให้ดื่มนมแพะแทนค่ะ 🐐
❌เราไม่เน้นดื่มนมวัวกันนะคะ🐄 เพราะในนมวัวมีน้ำตาลแลคโตสสูงกว่านมแพะ และเสี่ยงต่อภาวะ PCOS ไข่ไม่ตกเรื้อรัง แถมยังโมเลกุลใหญ่ ย่อยยาก ตกค้างในลำไส้ ก่อให้เกิดการแพ้ได้ง่ายกว่านมแพะถึง 23% #เมื่อตั้งครรภ์ก็อาจเสี่ยงต่อลูกแพ้นมวัวได้
และมีงานวิจัยศึกษาพบว่าในนมแพะมีโปรตีนก่อแพ้น้อยกว่านมวัวถึง 89%
🐐นมแพะมีสารอาหารที่ธรรมชาติมาก เพราะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบ “อะโพไครน์” #แบบเดียวกับนมแม่ ทำให้มีสารอาหารจากธรรมชาติหลุดออกมาเยอะ อุดมด้วยวิตามินหลายชนิดที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ รวมถึงวิตามินดี ที่ช่วยในเรื่องการฝังตัวของตัวอ่อน
มีโมเลกุลโปรตีนแบบ CPP เป็นโปรตีนอ่อนนุ่มที่ย่อยง่าย ดูดซึมง่ายคล้ายนมแม่ มี “อินนูลิน” ที่เป็นจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้และมดลูก และมีนิวคลีโอไทด์ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ซ้ำยังมี “ทอรีน” สูง ช่วยเรื่องสมองและระบบจอประสาทตาของทารก ดื่มได้โดยไม่อ้วน ช่วงลดระดับคอเลสเตอรอล
.
8. กินอาหารไมโครเวฟ
อาหารประเภทที่นำไปเข้าไมโครเวฟรวดเร็วทันใจ มันคืออาหารแปรรูปตามที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากจะส่งผลให้ฮอร์โมนเพี้ยน ไข่ไม่ตก ท้องยากแล้ว ตัวบรรจุภัณฑ์ของอาหารที่เป็นพลาสติกอาจมีอันตรายเพราะอาจมีฮอร์โมนแฝง ซีโนเอสโตรเจน (Xenoestrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง แต่ถ้าได้รับเข้าไปมันจะไปรบกวนการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนตามธรรมชาติ ซึ่ง Xenoestrogen พบในพวกอาหารแปรรูป ไขมันทรานส์ อาหารที่มีสารเคมีปน
เปื้อนขวดน้ำพลาสติกที่มีสาร BPA เป็นต้น
.
9. กินน้ำน้อย
อยากบรุงเซลล์ไข่ให้สมบูรณ์ ระบบสืบพันธุ์ทำงานเป็นปกติต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร
💧💧ท้องง่ายขึ้น แค่ดื่มน้ำ💧💧
รู้ไหม? ดื่มน้ำให้เพียงพอส่งผลต่อโอกาสท้อง
แม่ๆจ๋าาา ดื่มน้ำกันหรือยังคะ น้ำคือชีวิต สำคัญมากๆต่อการทำงานของทุกระบบในร่างกาย รวมถึงระบบสืบพันธุ์
แม่ๆรู้ไหม เซลล์ไข่และสเปิร์มต้องการน้ำในกระบวนการเติบโต แม่ๆ จึงต้องดื่มน้ำเปล่าให้ได้ 2-3 ลิตรต่อวัน
น้ำส่งผลต่อระบบการผลิตสเปิร์ม การตกไข่ ช่วยให้เลือดไหลเวียนนำพาสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะสืบพันธุ์ได้เพียงพอ และยังช่วยขับล้างสารพิษออกจาก
ร่างกาย
.
แม่ๆ ที่อยากมีน้องจึงต้องห้ามขาดน้ำ ใช้ขวดบังคับน้ำเลยค่ะ เติมน้ำให้เต็ม 2 ลิตร และบังคับว่าใน 1 วันต้องดื่มหมดขวดนี้ ก็จะเป็นการบังคับให้เราไม่ลืมดื่มน้ำ และดื่มน้ำได้เพียงพอค่ะ ดื่มไปทั้งวัน ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องกระดกพรวดเดียวนะคะ จิบน้ำไป ทำงานไป
.
#เคล็ดลับ
ใส่ผงผัก Pure red และ Pure Green อย่างละ 1 ช้อนชาลงไปด้วย ได้น้ำผัก ดื่มสดชื่นทั้งวัน แถมสารต้านอนุมูลอิสระสูง บำรุงเลือด บำรุงไข่ สตรีอยากมีน้องต้องทำตามนะคะ
.
💧💧ประโยชน์ของน้ำ ต่อสตรีอยากมีน้อง💧💧
●50-70% ของน้ำหนักตัวคือน้ำ
เลือดประกอบด้วยน้ำ 85%
สมองประกอบด้วยน้ำ 75%
กระดูกประกอบด้วยน้ำ 25%
●น้ำช่วยในการสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์ไข่ ช่วยให้ไข่ตกปกติ
●น้ำช่วยสร้างสเปิร์มทั้งด้านปริมาตรและช่วยให้สเปิร์มไม่เหนียวข้น เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น
●อวัยวะที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์ได้แก่ รังไข่ มดลูก สมอง ต่อมไทรอยด์ ต้องการน้ำในการรักษาสมดุล
●น้ำช่วยสร้างมูกตกไข่ สร้าง ph balance ให้มูกตกไข่ไม่ให้เป็นกรดมากเกินไป ทำให้สเปิร์มไม่ตายและว่ายเข้าไปเจอไข่ง่ายขึ้น
●น้ำช่วยนำพาสารอาหารไปเลี้ยงตัวอ่อน หากขาดน้ำตัวอ่อนจะไม่เจริญเติบโต และอาจแท้งได้
●น้ำช่วยในการขับล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย
.
.
ทานอาหารตามคัมภีร์บำรุงไข่ บำรุงสเปิร์ม ห้ามขาดน้ำวันละ 2-3 ลิตร ช่วยให้ร่างก่ยแข็งแรง ฮอร์โมนสมดุล ระบบสืบพันธุ์ทำงานเป็นปกติ เบบี๋มาในเร็ววันนะคะ
.
10. กินไม่ครบมื้อ
บำรุงร่างกายให้แข็งแรงในองค์รวมต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานให้ครบมื้อ อย่างน้อย 3 มื้อ ทานตามหลัดโภชนาการ ห้ามอดมื้อใดมื้อหนึ่ง และอย่าอดอาหาร แต่ให้ใช้การควบคุมการกินให้ถูกต้อง การอดอาหารไม่ใช่ทางออก แต่กินถูกหลักโภชนาการและกินให้เพียงพอจะทำให้คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ และร่างกายไม่พังค่ะ
แม่ๆ มักจะรีบและอดมื้อเช้าซึ่งมีความสำคัญมาก
มีการศึกษาพบว่าการทานอาหารเช้าที่ได้สารอาหารครบถ้วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ส่งผลดีกรณีต่อสตรีที่ฮอร์โมนไม่สมดุล อยู่ในภาวะ PCOS (ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง)
การทานอาหารเช้าเป็นมื้อใหญ่ช่วยลดความเสี่ยงภาวะดื้ออินซูลิน จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่ทานอาหารเช้ามื้อใหญ่เป็นเวลา 12 สัปดาห์ มีอัตราการตกไข่มากกว่าผู้หญิงที่ทานอาหารเช้าเพียงเล็กน้อยและเน้นทานอาหารเย็นค่ะ
Kommentare