แม่ๆรู้ไหม? มะเขือเทศช่วยให้สเปิร์มคุณสามีว่ายเร็ว!อยากมีน้องต้องดูแลคุณสามีด้วยนะคะ
📚จากงานวิจัยเรื่อง The effects of tomato juice on male infertility ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition เมื่อปี 2017
ได้ทำการทดลองกับผู้ชายที่มีบุตรยาก 44 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มที่ให้ดื่มน้ำมะเขือเทศวันละ 1 กระป๋องที่ให้ไลโคปีน 30 mg โดยให้ดื่มติดต่อกันเป็นเวลา 12 สัปดาห์
พบว่าในกลุ่มที่ได้ดื่มน้ำมะเขือเทศ เปอร์เซ็นต์การเคลื่อนไหวของสเปิร์ม (Sperm motility ) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในสัปดาห์ที่ 6 และในสัปดาห์ที่ 12 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดื่มน้ำมะเขือเทศ
จะเห็นว่าการทานไลโคปีนจากมะเขือเทศในปริมาณอย่างน้อย 30 mg ต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ส่งผลต่อการเพิ่มเปอร์เซ็นต์การเคลื่อนไหวของสเปิร์ม
นอกจากนี้ ไลโคปีน จากมะเขือเทศเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่า ช่วยชะลอความชรา ต้านความเสื่อมของร่างกาย ช่วยการไหลเวียนของเลือด ลดเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยในการมองเห็น และลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง ประเภทต่างๆ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งระบบทางเดินอาหาร มะเร็งเต้านม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย โดยต่อมลูกหมาก เป็นต่อมที่สร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ ต่อมลูกหมากตั้งอยู่ระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับท่อปัสสาวะ เมื่อผู้ชายอายุสูงขึ้นคือ ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชาย(เทสโทสเตอโรน) ลดลง ส่งผลให้เซลล์ในต่อมลูกหมากแบ่งตัวมากขึ้น ต่อมลูกหมากจึงโตขึ้น และหากมีการอักเสบร่วมด้วยก็จะมีโอกาสเกิดมะเร็ง ได้สูงขึ้น ไลโคปีน จะควบคุมการโตของต่อมลูกหมาก ช่วยทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อตาย และลด การแบ่งเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก
การวิจัยทางคลินิกเฟส 2 กับอาสาสมัคร 46 คน ที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก รับประทาน ไลโคปีน ในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 15 mg.
2 ครั้งต่อวัน พบว่าให้ผลดีขึ้น 50 %
การศึกษาในอาสาสมัครชาย 47,894 คน นาน 6 ปี เพื่อหาความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารได้ผลว่า ผู้ที่รับประทานมะเขือเทศจะมีความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากต่ำกว่า ผู้ที่รับประทานมะเขือเทศน้อยหรือไม่ค่อยได้รับประทาน
ในผลงานวิจัยระบุว่าประโยชน์หลักๆ ของไลโคปีน คือ ป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้เป็นปกติ โดยต่อมลูกหมากเป็นต่อมที่สร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ อยู่ระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับท่อปัสสาวะ เมื่อผู้ชายมีอายุเพิ่มขึ้นคือ ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) ลดลง โดยส่งผลให้เซลล์ในต่อมลูกหมากแบ่งตัวมากขึ้น ต่อมลูกหมากจึงโตขึ้น และหากมีการอักเสบร่วมด้วยก็จะมีโอกาสกิดมะเร็งได้สูงขึ้น
ไลโคปีนจะควบคุมการโตของต่อมลูกหมาก ช่วยทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อตาย และลดการแบ่งตัวเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก ส่งผลให้สมรรถภาพต่างๆ ทำงานได้เป็นปกติ
ไลโคปีนสามารถเพิ่มจำนวนสเปิร์มได้ถึง 70% เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากหรือต้องการมีบุตร ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ได้มีสมมติฐานที่ว่า “ภาวะการมีบุตรยากเป็นปัญหาของผู้หญิง” เพราะผู้หญิงเป็นผู้ให้กำเนิดเด็กทารก แต่หลายต่อหลายครั้งปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากจำนวนและคุณภาพของสเปิร์มจากผู้ชายเอง
แล้วเราควรให้สามีทานมะเขือเทศวันละกี่ลูกน้า?
✔️ปริมาณไลโคปีน ในมะเขือเทศสด อยู่ที่ 0.88-4.20 mg ต่อ น้ำหนัก 100 กรัม (ปริมาณไลโคปีนขึ้นอยู่กับขนาดผลมะเขือเทศ)
✔️คิดง่ายๆ เลยค่ะ เฉลี่ยว่า มะเขือเทศ 100 กรัมให้ไลโคปีนต่อผลอยู่ที่ 2.5 mg (คิดค่ากลางเลยค่ะ)
✔️มะเขือเทศผลใหญ่ปกติหนักประมาณ 50 กรัม
✔️ดังนั้นทานมะเขือเทศ 1 ผล ได้ไลโคปีนราว 1.25 กรัม
✔️เราต้องการปริมาณไลโคปีนวันละ 30 mg
✔️เท่ากับต้องทานมะเขือเทศ วันละ 24 ลูก !!
ไหวมั้ยบอกมา??
ง่ายกว่านั้นมีไหม? คำตอบของการบำรุงน้องอ๊อด
Ferta เวย์โปรตีนที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ชายมีบุตรยาก มีสารสกัดจากมะเขือเทศไลโคปีนถึง 40 mg ใน 1 ซอง
👉Ferta 1 ซอง = ทานมะเขือเทศ กว่า 32 ลูก
👉แค่ฉีกซอง เช๊คกับน้ำเปล่าก็บำรุงสเปิร์มได้ง่ายๆ
Comments