ภาวะท่อนำไข่บวมน้ำ สาเหตุมีบุตรยาก
"ท่อนำไข่" คือ จุดนัดพบของสเปิร์มและเซลล์ไข่ เซลล์ไข่จะตกลงมาที่ท่อนำไข่ และเจ้าสเปิร์มจะว่ายมาเจอกันตรงนี้ เกิดการปฏิสนธิแล้วตัวอ่อนก็จะเคลื่อนตัวมาฝังตัวที่โพรงมดลูก
ดังนั้นหาก "ท่อนำไข่ตัน" โอกาสท้องธรรมชาติจึงมีน้อย แม่ๆ อาจจะรู้เรื่องนี้มาบ้างแล้ว แต่ประเด็นในวันนี้คือ "ท่อนำไข่บวมน้ำ" ค่ะ ซึ่งไม่ได้ตัน แต่มันก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ท้องยากได้
วันนี้ครูก้อยสืบค้นข้อมูลเรื่องนี้มาฝาก เราไปศึกษาพร้อมกันเลยค่ะ
●ภาวะท่อนำไข่บวมน้ำคืออะไร?
เป็นกรณีที่ท่อนำไข่ส่วนปลายเกิดการอุดตันทำให้สารคัดหลั่งที่สร้างจากเซลล์ภายในท่อนำไข่ไม่สามารถจะระบายออกไปได้ จึงเกิดภาวะที่ "มีน้ำคั่งอยู่ในท่อนำไข่" และท่อนำไข่ก็จะ "บวมพองออกเป็นกระเปาะ" เรียกว่า "ภาวะท่อนำไข่บวมน้ำ" ( hydrosalpinx )
.
●ท่อนำไข่บวมน้ำส่งผลอย่างไรต่อการตั้งครรภ์?
ท่อนำไข่เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมากในการปฏิสนธิ เป็นจุดแรกเริ่มของการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน จากนั้นตัวอ่อนจะเดินทางจากบริเวณที่ปฏิสนธิใช้เวลา 5-6 วันเข้าสู่โพรงมดลูก และทำการฝังตัว
หากมีการอุดตันของท่อนำไข่ อาจจะด้วยการติดเชื้อ หรือมีพังผืดมารัดคลุมตรงส่วนปลายท่อ จะทำให้ของเหลวที่ท่อนำไข่สร้างขึ้นมาไม่สามารถระบายออกมาที่ปลายท่อได้ และจะสะสมอยู่ในท่อนำไข่จนโป่งพองกลายเป็นถุงน้ำ ( hydrosalpinx ) ซึ่งจะทำให้มีผลเสียต่อการตั้งครรภ์ คือ
👉มีการ "ไหลย้อนกลับ" ของน้ำภายในท่อนำไข่ที่โป่งพองนี้เข้าสู่โพรงมดลูก ทำให้น้ำนี้ไปพัดพาตัวอ่อน ยับยั้งตัวอ่อนจากการฝังตัวที่สมบูรณ์
👉มีการหลั่งสารอักเสบบางตัว ทำให้โพรงมดลูกรับการฝังตัว ของตัวอ่อนน้อยลง
👉พิษของน้ำที่ขังในท่อนำไข่ มีผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อน ทำให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตไม่ดี
.
●การตรวจวินิจฉัยภาวะท่อนำไข่บวมน้ำทำได้อย่างไร?
(1) การอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
ในหญิงที่มีบุตรยากที่มารับการตรวจวินิจฉัย ในบางครั้งจะสามารถตรวจพบภาวะท่อนำไข่บวมน้ำได้ จากการตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด โดยจะเห็นลักษณะเป็นช่องว่างสีดำยาว แต่การเห็นลักษณะดังกล่าวจากการตรวจอัลตราซาวด์จะยังไม่สามารถวินิจฉัยภาวะนี้ได้แน่นอน ต้องมีการตรวจค้นพิเศษเพิ่มเติม นั่นคือการตรวจท่อนำไข่ด้วยวิธีการฉีดสีเอกซเรย์
(2) การฉีดสีดูท่อนำไข่
เป็นการตรวจวินิจฉัยภาวะท่อนำไข่บวมน้ำที่แม่นยำ เนื่องจากจะสามารถเห็นลักษณะของท่อนำไข่หลังจากการฉีดสารทึบแสง จะค่อยๆพองและบวมออกเห็นเป็นลักษณะกระเปาะชัดเจน เนื่องจากสีที่ฉีดเข้าไปไม่สามารถไหลผ่านออกทางปลายท่อนำไข่เข้าสู่ช่องท้องได้ จึงเกิดการสะสมของสารทึบแสงที่ใช้ฉีดและมองเห็นได้ชัดเจนจากการเอกซเรย์
(3)การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อวินิจฉัย
ในผู้ป่วยบางรายที่จำเป็นต้องใช้การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อหาสาเหตุของการมีบุตรยาก โดยจะทำการฉีดสี methylene blue เพื่อเป็นการทดสอบว่าท่อนำไข่ตันหรือไม่ ถ้าปรากฏว่าท่อนำไข่ตัน เราจะเห็นลักษณะของท่อนำไข่หลังจากฉีด methylene blue เป็นลักษณะท่อยาวพองบวม สีข้างในจะออกน้ำเงิน เป็นลักษณะเฉพาะของภาวะนี้
.
●วิธีการรักษาทำได้อย่างไร?
👉การใช้ยาปฏิชีวนะ
👉เจาะดูดน้ำภายในท่อนำไข่ทิ้ง
👉การผ่าตัดเอาท่อที่บวมน้ำออก
📚จากการศึกษาวิจัยจำนวนมากพบว่า....
การตัดท่อนำไข่ที่บวมน้ำออกจะช่วยเพิ่มอัตราการฝังตัว และการตั้งครรภ์อย่างชัดเจน
ในขณะที่การให้ยาปฏิชีวนะ หรือการดูดน้ำจากท่อนำไข่ ไม่มีผลช่วยในเรื่องการตั้งครรภ์
ดังนั้นสาเหตุการมีบุตรยากจากภาวะท่อนำไข่บวมน้ำนี้ แพทย์ที่ทำการรักษาจึงมักจะแนะนำให้ผ่าตัดเพื่อเอาท่อนำไข่ที่บวมออกไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ค่ะ โดยหากตัดท่อนำไข่ข้างเดียวยังสามารถตั้งครรภ์ธรรมชาติได้ แต่หากต้องตัดทั้งสองข้างก็ยังสามารถตั้งครรภ์ได้ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) ค่ะ
Comments