
ท้องยาก เพราะฮอร์โมนเพี้ยน!
5 วิธี กินอย่างไร
ให้ฮอร์โมนสมดุล
การทานอาหารสำคัญอย่างมากต่อการผลิตฮอร์โมนและความสมดุลของฮอร์โมน แม่ๆรู้ไหมสารอาหารที่เรารับประทานเข้าไปมันคือ สารตั้งต้นที่ร่างกายนำไปสร้างฮอร์โมนและเป็นแหล่งพลังงานให้กับร่างกาย ฮอร์โมนจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงวัยของชีวิตและผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ในปัจจุบันปัญหาสุขภาพที่คนส่วนใหญ่เผชิญ เช่น น้ำหนักเกิน เบาหวาน มะเร็ง โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และรวมไปถึงปัญหาภาวะมีบุตรยากที่เกิดจาก วัยทองก่อนวัย รังไข่เสื่อม ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ร่างกายอักเสบ ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ หรือ ภาวะ PCOS (ไข่ไม่ตกเรื้อรัง) แม่ๆรู้ไหมว่ามันมีปัจจัยเรื่องของฮอร์โมนอยู่เบื้องหลัง‼️และที่สำคัญคือ ต้นเหตุของความไม่สมดุลนี้มาจาก "อาหารที่เราทานเข้าไป"
ในส่วนของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงนั้นมีฮอร์โมนเพศหลายตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง หากฮอร์โมนเหล่านี้ไม่สมดุลก็จะส่งผลตั้งแต่เรื่องรอบเดือน รังไข่ วัยทองก่อนวัย ไข่ไม่โตตามปกติ ไข่ไม่ตก ผนังมดลูกบาง เป็นต้น ซึ่งฮอร์โมนเพศหญิงที่สำคัญได้แก่ เอสโตรเจน ที่ควบคุมความเป็นหญิง ควบคุมรอบเดือน การตกไข่ ความพร้อมของมดลูกในการตังครรภ์ หากฮอนโมนเอสโตรเจนไม่สมดุล ต่ำกินไปก็จะเป็นสัญญาณของวัยทองก่อนวัย ท้องยาก
ครูก้อยรวบรวมการทานอาหารที่ส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนมาให้ศึกษากันค่ะ ปรับเปลี่ยนมาทานตามนี้ เป็นการปรับฮอร์โมนให้สมดุล เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
1. เน้นโปรตีนจากพืช
เน้นการทานโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะโปรตีนส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหาร มีงานวิจัยศึกษาพบว่าการรับประทานโปรตีนช่วยลดความอยากอาหาร ส่งผลดีต่อระบบ
เผาผลาญของร่างกาย และสมดุลฮอร์โมนโดยรวม
สำหรับแม่ๆที่วางแผนท้องโดยควรเน้นการทานโปรตีนจากพืชเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ จากการศึกษาพบว่า ถั่วเหลือง มีพฤษเคมี "ไฟโตเอสโตรเจน" ทีชื่อว่า "ไอโซฟลาโวน" สูงที่มีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจน ชะลอวัยทองก่อนวัย
แฟล็กซีด ก็เป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีไฟโตเอสโตรเจน ประเภท "ลิกแนน" ที่ช่วยเสริมการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยให้รังไข่ทำงานได้เป็นปกติ
2. งดหวาน ลดคาร์บ
น้ำตาลคือตัวร้ายทำลายเซลล์ ทำให้เกิดการอักเสบ เพิ่มอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย งดหวานไปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง นมเปรี้ยว ขนมหวาน ชาเย็น ชานมไข่มุก เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลเหล่านี้เข้าไปจะส่งผลต่อระดับกลูโคสในเลือดสูงเฉียบพลัน เหนี่ยวนำการหลั่งอินซูลิน อาจเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้ร่างกายอักเสบ ฮอร์โมนผิดเพี้ยน ส่ง
ผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป ส่งผลต่อโรคอ้วน เบาหวาน ฮอร์โมนเพศหญิงไม่สมดุล รังไข่เสื่อม เกิดภาวะ PCOS (ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง)
ส่วนการบดคาร์บนั้น คือให้ลดคาร์บประเภทขัดสี (Refined Carb) แต่ให้เปลี่ยนมาทานคาร์บเชิงซ้อน ได้แก่ ข้าวกล้อง ควินัว ธัญพืชถั่วต่างๆ งาดำ แฟล็กซีด เมล็ดฟักทอง ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น
เพราะเมื่อเราทานคาร์บเข้าไปแล้วร่างกายจะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน ซึ่ง โรคเหล่านี้ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ยากทั้งสิ้น
แต่ถ้าเราเลือกทานคาร์โบไฮเดรต
เชิงซ้อน (Complex Carb) หรือคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ขัดสี ร่างกายจะใช้เวลาย่อยนานกว่าพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว หรือ คาร์โบไฮเดรตที่ขัดสี (Refined Carb) เช่น ข้าวขาว แป้ง น้ำตาล ขนมปัง เบเกอรี่ เมื่อใช้เวลาย่อยนานกว่า จะให้พลังงานนานกว่า ไม่ทำให้หิวโหย ให้ไฟเบอร์สูง และไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว (glucose) ซึ่งการทำงานของร่างกายนั้นจะเปลี่ยนกลูโคสที่มีมากเกินไปให้กลายเป็นไขมัน ดังนั้นคนที่พยายามลดความอ้วน หากลดการทานคาร์บ
ได้ก็จะส่งผลต่อน้ำหนักที่ลดลงได้นั่นเองค่ะ
📚มีงานวิจัยศึกษาพบว่าการทานอาหารแบบลดคาร์บประเภท Refined Carb (คาร์โบไฮเดรตขักสี) ลง ช่วยลดระดับอินซูลิน ส่งผลต่อ ฮอร์โมนที่สมดุล วงจรการตกไข่เป็นปกติขึ้นทำให้มีอัตราการตั้งครรภ์สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่รับประทานอาหารตามปกติ อีกทั้งยังลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนอีกด้วย
หากต้องการความหวานให้ทานจากผลไม้ที่ไม่หวาน
จัด เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล กีวี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หรือ น้ำอินทผลัมที่ให้ความหวาน แต่เป็นความหวานที่ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) เป็นความหวานที่ปลอดภัย
📚จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition Journal เมื่อปี 2011 นายแพทย์ Juma M Alkaabi ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ได้ทำการวิจัยกับผู้ป่วยเบาหวานโดยให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานผลอินทผลัมและพบว่า การทานผลอินทผลัมนั้นไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแต่อย่างใด
หรือความหวานจาก "น้าผึ้งชันโรง" ซึ่งเป็นน้ำผึ้งจากเกสรดอกไม้ 100% ไม่ใช้น้ำผึ้งจากผึ้งเลี้ยง น้ำผึ้งชันโรงจัดเป็น super food สารต้านอนุมูลอิสระสูง ให้ความหวาน Low GI ที่ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังมี