8 พฤติกรรม ทำลาย "ไข่" และ "สเปิร์ม"
คู่สมรสที่กำลังพยายามมีเบบี๋ เช็คด่วนค่ะว่าเรายังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือไม่!?
ลด ละ เลิก ด่วน‼️เพราะมันส่งผลร้ายต่อเซลล์ไข่และสเปิร์ม...จะมีเบบี๋ไม่ใช่แค่ทำการบ้านถี่ แต่ต้องดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเพิ่มคุณภาพให้ไข่และสเปิร์ม...เพิ่มโอกาสท้องง่ายขึ้นค่ะ
.
1.ไม่ออกกำลังกาย
ขยับตัวด่วนค่ะ! คู่ไหนขี้เกียจออกกำลังกาย ชวนกันกิน แต่ไม่ชวนกัน exercise เสี่ยงท้องยากค่ะ ไม่ออกกำลังกายส่งผลให้ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล น้ำหนักเกิน ไข่ไม่ตก
📚จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่มีภาวะอ้วนท้องยากกว่าผู้หญิงที่น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติถึง 2 เท่า
ส่วนผู้ชายที่อ้วน ส่งผลต่อการลดลงของคุณภาพสเปิร์มทั้งในด้านจำนวน และ การวิ่ง ฮอร์โมนเพศชายต่ำ ร่างกายอักเสบส่งผลต่อการผลิตสเปิร์มที่ไม่มีคุณภาพ
.
2.ติดของหวาน
หากอยากเป็นคุณพ่อคุณแม่ ต้องเลิกทานหวานเด็ดขาด อย่างน้อยก็ห่างกันสักพักในช่วงปั๊มลูก
น้ำตาลเป็นภัยร้ายที่สุดต่อไข่และสเปิร์ม ทำให้ร่างกายอักเสบ และเซลล์เสื่อม เพราะมันไปเพิ่มอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย
ผู้หญิงติดหวาน เมื่อร่างกายได้รับกลูโคสมากเกินไป เอาไปใช้ไม่ทัน อาจเกิด "ภาวะดื้ออินซูลิน" เหนี่ยวนำให้ฮอร์โมนเพี้ยน มีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าเพศหญิง ส่งผลต่อภาวะ PCOS ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ประจำเดือนยาว ประจำเดือนขาดหาย ไข่ใบเล็ก ไข่ด้อยคุณภาพ
ผู้ชายก็เช่นกัน น้ำตาลทำให้ร่างกายอักเสบ ส่งผลต่อการผลิตสเปิร์มที่ด้อยคุณภาพ
.
3. ชอบทาน Junk Food
คู่ไหนติดของมัน ของทอด เน้นแป้ง เน้นไขมัน ต้องเลิกค่ะ พฤติกรรมแบบนี้ท้องยากแน่นอน เพราะสิ่งที่กินคือ "ไขมันทรานส์" ตัวร้ายที่สุดที่จะทำลายสุขภาพ เพิ่มคอเลสเตอรอล เส้นเลือดอุดตัน ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
📚มีงานวิจัยศึกษาพบว่า คู่สามีภรรยาที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงจะใช้เวลานานกว่าในการที่จะตั้งครรภ์
และถึงแม้ฝ่ายหญิงมีคอเลสเตอรอลสูงฝ่ายเดียว โดยฝ่ายชายมีระดับคอเลสเตอรอลปกติก็ยังส่งผลต่อการตั้งครรภ์ที่ยากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับคู่สมรสที่ทั้งคู่มีระดับคอเลสเตอรอลปกติ
.
4.สูบบุหรี่
ถ้าจะมีเบบี๋ เลิกตั้งแต่ตอนนี้ค่ะ ส่งผลต่อการมีบุตรยากเพิ่มขึ้น 60%
📚มีการศึกษามากมายที่พบว่า การสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อคุณภาพของเชื้ออสุจิ โดยทำให้ความเข้มข้นของเชื้ออสุจิลดลง การเคลื่อนที่ของเชื้ออสุจิแย่ลง ทำให้เชื้ออสุจิที่มีรูปร่างปกติมีจำนวนลดลง และทำให้ DNA ภายในเซลล์อสุจิเกิดความเสียหายได้ ดังนี้
สำหรับฝ่ายหญิงนั้น การสูบบุหรี่ส่งผลให้มีลูกยากได้กว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 3 เท่า เพราะในบุหรี่มีสารพิษมากมายที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ยับยั้งให้ไข่ไม่เจริญเติบโตเต็มที่ ตกไข่ช้า
และยังมีส่วนช่วยลดประสิทธิภาพของมดลูกที่เป็นที่ฝังของตัวอ่อนอีกด้วย นอกจากนี้บุหรี่ยังทำให้ผู้หญิงถึงวัยหมดประจำเดือน (วัยทอง) เร็วกว่าปกติถึง 2 ปี และทำให้กระดูกผุหรือเปราะเร็วขึ้นอีกด้วย
.
5.ดื่มแอลกอฮอล์
อยากท้องอย่าชวนกันดื่มค่ะ การดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2 แก้วต่อวันส่งผลต่อการมีบุตรยากเพิ่มขึ้น 60%
แอลกอฮอล์ไม่ว่าจะได้จากการดื่มเหล้า ไวน์หรือเบียร์นั้น จะส่งผลต่อการผลิตสเปิร์ม ทำให้ผลิตสเปิร์มได้น้อย และสเปิร์มที่ผลิตออกมาไม่มีคุณภาพ มีรูปร่างผิดปกติ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปเจาะไข่ได้ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะมีบุตรยากค่ะ
สำหรับผู้หญิงนั้น การดื่มแลกิฮอล์มากเกินไป ส่งผลให้เกิดภาวะผิดปกติของระบบฮอร์โมนต่อมใต้สมองและฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของรังไข่ เกิดความผิดปกติของช่วงเวลาการตกไข่และระยะเวลาครึ่งเดือนหลังตกไข่ ที่เรียกว่าระยะ "ลูเตียลเฟส" ซึ่งผนังมดลูกจะฟอร์มตัวหนาขึ้นเพื่อรับการฝังตัวของตัวอ่อน หากเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดความผิดปกติ การฝังตัวของตัวอ่อนจะไม่สมบูรณ์ อาจเกิดการแท้งได้
.
6.คอกาแฟ
คอกาแฟ ดื่ม เช้า สาย บ่าย เย็น ต้องลดค่ะ การดื่มคาเฟอีนมากกว่า 250 mg ต่อวันส่งผลต่อการมีบุตรยากเพิ่มขึ้น 45%
หากจะดื่มก็ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ได้แก่วันละ 1 แก้ว (250-300 mg) ต่อวันค่ะ
.
7.นอนดึก นอนน้อย
อย่าชวนกันดูซีรีย์จนอดหลับอดนอน หรือคุณผู้ชายติดเกมส์จนโต้รุ่ง ทำงานก็เหนื่อยแล้ว ต้องจัดเวลานอนให้เป็นเวลา "ไม่นอนดึก" และ "นอนให้เพียงพอ" อย่างน้อยวันละ 8 ชม.
📚มีงานวิจัยศึกษาพบว่า...ทั้งในผู้
หญิงและผู้ชาย สมองส่วนที่ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เราหลับ หรือ ตื่น เช่น ฮอร์โมนเมลาโทนิน และ คอติซอล เป็นสมองส่วนที่กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเพศด้วยเช่นกัน ดังนั้นฮอร์โมนที่ควบคุมการตกไข่ในผู้หญิง และ ฮอร์โมนที่ควบคุมการผลิตสเปิร์มในผู้ชายจึงมีความสัมพันธ์กับคุณภาพของการนอนหลับด้วย
โดยในผู้หญิงนั้น การนอนไม่เพียงพอในระยะยาวส่งผลโดยตรงต่อการสร้าง Luteinizing Hormone (LH) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมา
ในช่วงที่จะมีการตกไข่ มีผลทำให้รังไข่ปล่อยไข่ออกมาเพื่อรอการปฏิสนธิ LH เป็นฮอร์โมนหนึ่งที่จะหลั่งออกมาในช่วงที่มีการตกไข่ของรอบเดือนนั้นๆ หากฮอร์โมน LH ผิดปกติก็จะส่งผลต่อรอบเดือนที่ไม่ปกติ ส่งผลให้ไข่ไม่ตก หรือ ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ
ส่วนในผู้ชายนั้น มีงานวิจัยศึกษาพบว่า...การนอนที่เพียงพอนั้นควรนอนหลับ 7-8 ชม.ต่อวัน ผู้ชายที่นอนน้อยกว่า 6 ชม.หรือ นอนมากกว่า 9 ชม.ต่อวัน ส่งผลต่อโอกาสในการทำให้คู่ของตนเองตั้งครรภ์ลดลง 42% ในแต่ละรอบเดือน!
.
8. เครียดบ่อยสะสม
ยิ่งเครียดเท่าไหร่ ยิ่งท้องยากขึ้น!
📚จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่มีความกังวลและจมกับความเครียดส่งผลให้ตั้งครรภ์ยากสูงถึง 20%
มีผลวิจัยชิ้นหนึ่งได้สุ่มทดลองกับผู้หญิงที่อยากมีบุตร
จำนวน 501 คน โดยนำน้ำลายไปตรวจสอบเพื่อวัดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) และแอลฟา-อะไมเลส (Alpha-amylase) สารสำคัญ 2 ชนิดที่จะสื่อได้ว่า เรามีความเครียดมากน้อยแค่ไหน ผลการศึกษาพบว่า....
ผู้หญิงที่ถูกค้นพบว่ามีสารสำคัญ 2 ชนิดนี้ในปริมาณที่สูง แปลได้ว่ามีความเครียดพอสมควร จะมีแนวโน้มตั้งครรภ์ยากตามไปด้วย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็แสดงความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อผู้หญิงเกิดความเครียด #การตกไข่ก็จะผิดปกติ ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และเมื่อไข่ไม่ตก โอกาสท้องก็ลดน้อยลงนั่นเองค่ะ
ดังนั้นแม่ๆต้องหาโอกาสผ่อนคลาย ลดความเครียด วันนี้ครูก้อยจะพาไปดูกิจกรรมผ่อนคลาย ลดเครียด เพื่อเพิ่มโอกาสท้องกันค่ะ
.
.
รู้อย่างนี้แล้วต้องชวนกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย เลิกพฤติกรรมเสี่ยงทั้งหลาย....เพื่อสร้าง "วัตถุดิบตั้ง
ต้น" ไข่ + สเปิร์ม ให้มีคุณภาพ...เพื่อเบบี๋ตัวน้อยของเราในอนาคตค่ะ
Comments