งานวิจัยเผย! วิตามิน D มีส่วนช่วยในการฝังตัวของตัวอ่อน บำรุงเตรียมท้องต้องกิน‼️
วิตามิน D มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ จึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมกระบวนการสำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ช่วยลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (Parathyroid Hormone) ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวานซึ่งคนวางแผนท้องต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้ปกติ ลดความเสี่ยงภาวะ PCOS (ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง)
วิตามิน D สามารถพบได้ในหลายๆอวัยวะของผู้หญิง รวมถึง รังไข่ มดลูก และ รก
👉Active form ของวิตามินดี (คาลซิเทรียล) มีบทบาทที่หลากหลายในระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง #รวมถึงการฝังตัวของตัวอ่อน เมื่อจับกับตัวรับของมัน(receptor) คาลซิเทรียลสามารถบังคับยีนที่เกี่ยวกับการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนได้
เมื่อมีตัวอ่อนเข้ามาในโพรงมดลูก ผนังมดลูกก็จะสร้างคาลซิเทรียลเพื่อเตรียมให้ตัวอ่อนก่อนที่จะเริ่มกระบวนการฝังตัว
เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ มดลูกและรก ก็จะยังคงสร้างคาลซิเทรียลนี้เพื่อช่วยเซลล์ภูมิคุ้มกันให้จัดการกับการติดเชื้อ โดยไม่ทำร้ายครรภ์
👉ดังนั้นสำหรับผู้หญิงที่วางแผนจะเริ่มทำ IVF, ICSI เหมาะอย่างยิ่งที่จะบำรุงตัวเองด้วยวิตามิน D เพราะวิตามิน D มีส่วนช่วยในการสืบพันธุ์ บำรุงไข่ ไปจนถึงการฝังตัวของตัวอ่อน
📚มีงานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Reproductive Health เมื่อปี 2019 ศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่มีวิตามิน D ในร่างกายสูง มีอัตราการตั้งครรภ์จากการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ได้มากกว่าคนที่มีวิตามิน D ต่ำ เนื่องจากวิตามิน D มีความสำคัญต่อการฝังตัวของตัวอ่อนที่ผนังมดลูก หากร่างกายขาดวิตามิน D โอกาสประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้วจะลดลง
แล้ววิตามิน D หาได้จากที่ไหน❓
วิตามิน D หาได้ไม่ยากเลยค่ะ
✔แค่เดินออกนอกบ้านไปรับแดดยามเช้า 25-30 นาที
✔กินอาหารที่มีวิตามิน D เช่น ไข่แดง ปลา นมแพะ
✔แต่ถ้าไม่สะดวกก็ทานแบบเสริม แต่ต้องอยู่ในรูป Vitamin D3 จะดีกว่าค่ะ เพราะเป็น form ที่จำเป็นต่อร่างกายที่สุด
โดยเฉพาะคนที่เป็น PCOS จะมีวิตามิน D ในร่างกายน้อยกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว เราเลยต้องทานวิตามิน D ให้เพียงพอค่ะ
ครูก้อยแนะนำคือการทานวิตามิน D เสริมค่ะ หากเราได้รับวิตามิน D ไม่เพียงพอต่อวันควรทานเสริมล่วงหน้าก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน
Comments