แม่ๆ ที่วางแผนตั้งครรภ์ต้องดูแลบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ แต่สิ่งที่ห้ามมองข้ามและต้องดูแลเป็นพิเศษคือ "มดลูก" ของเราค่ะ โดยเฉพาะแม่ๆ ที่ทำ ICSI หรือเด็กหลอดแก้ว เมื่อเก็บไข่ออกไปปฏิสนธิและเลี้ยงเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์แล้ว ตัวอ่อนจะถูกฟรีซไว้ก่อนย้ายกลับ ทำให้มีเวลาเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมที่สุด แต่หากมดลูกไม่แข็งแรง การฝังตัวของตัวอ่อนก็จะไม่สมบูรณ์และตั้งครรภ์ไม่ได้ วันนี้ครูก้อยมี 9 วิธีสำหรับดูแลมดลูกมาฝากค่ะ
9 วิธีดูแลมดลูกจากครูก้อย
1. ออกกำลังกายบริหารมดลูก
การออกกำลังกายส่งผลดีต่อสุขภาพ และการเน้นท่าออกกำลังกายบริหารมดลูกเป็นพิเศษนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเตรียมมดลูกให้พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน โดยเน้นท่าบริหารอุ้งเชิงกราน ป้องกันมดลูกหย่อน ครูก้อยมีท่าโยคะที่ใช้บริหารมดลูกที่แม่ๆ สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านมาฝาก เช่น ท่าสะพาน เริ่มจากนอนหงายชันเข่า ยกเอวและสะโพกขึ้น วางแขนแนบกับพื้น ทำค้างไว้ 15 วินาที 3 ครั้ง
ที่สำคัญคือต้องหมั่นยืดเส้นยืดสาย อย่านั่งหรือนอนนานๆ หากทำงานอยู่กับที่ ก็ต้องลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เพื่อไม่ให้เลือดคั่ง เพราะการขยับตัวทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูก, รังไข่ และอวัยวะสืบพันธุ์ได้ดีขึ้น
นอกจากนี้การออกกำลังกายจะช่วยรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ถ้าน้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนเพศ ทำให้การทำงานของระบบสืบพันธุ์และมดลูกผิดปกติ
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนที่เพียงพอส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมประมาณ 7-8 ชั่วโมง จะช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายผลิตออกมาอย่างสมดุล ส่งผลให้รังไข่และมดลูกทำงานปกติ รอบเดือนและวงจรการตกไข่สม่ำเสมอขึ้นด้วย
3. สร้างผนังมดลูกให้หนา แข็งแรงด้วยโปรตีน
การทานอาหารที่มีโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีนที่ช่วยบำรุงและเสริมสร้างเซลล์ให้แข็งแรง รวมไปถึงสร้างผนังมดลูกให้หนาตัวและแข็งแรงจะช่วยให้ตัวอ่อนฝังตัวง่ายขึ้น ทั้งนี้ครูก้อยขอให้เน้นโปรตีนจากพืช เพราะไม่มีคอเลสเตอรอล เช่น งาดำ, ถั่วเหลือง, ถั่วลูกไก่, เมล็ดฟักทอง และธัญพืชพวกควินัว รวมถึงเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น อกไก่, ไข่ไก่, ปลาแซลมอน เป็นต้น
กรณีที่มีเวลาเตรียมผนังมดลูกก่อนใส่ตัวอ่อนน้อยและมีผนังมดลูกบาง ครูก้อยแนะนำให้ทานโปรตีนเพิ่ม ในช่วงเตรียมผนัง เพียงแค่เชคโปรตีน Ferty ดื่มวันละ 3 ซองได้เลยค่ะ อย่าลืมอัดงาดำออแกนิค+ธัญพืช Good Grain ลงไปด้วยอย่างละ 2 ช้อนพูน เพื่อช่วยให้ผนังแข็งแรงและหนาตัวขึ้น แม่ๆ ทำตามสูตรครูก้อยและมีข่าวดีมาบอกทุกวันว่าได้ผนังหนาตามเกณฑ์ ใส่ตัวอ่อนประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้เลยค่ะ
4. มดลูกต้องใสสะอาด
การดูแลมดลูกให้สะอาด ไม่หนาทึบจากการทับถมของประจำเดือนเก่าที่คั่งค้างนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะตั้งแต่วัยเจริญพันธุ์เราเริ่มมีประจำเดือนมา แต่ใครหลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าร่างกายของเราไม่ได้เคลียร์เลือดประจำเดือนเก่าที่คั่งค้างทับถมออกมาเลย การทับถมเหล่านี้ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก, ออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอ ทำให้เลือดไหลเวียนนำสารอาหารไปเลี้ยงมดลูกไม่เพียงพอ
เคล็ดลับในการเคลียร์เลือดประจำเดือนของครูก้อยคือ "ดื่มชาดอกคำฝอย" ตัวช่วยล้างประจำเดือนเก่าที่คั่งค้างหมักหมม เมื่อประจำเดือนมาวันแรกให้ดื่มชาดอกคำฝอยยาวๆ 7-10 วัน เพราะดอกคำฝอยมีสรรพคุณช่วยขับลิ่มเลือด การดื่มชาดอกคำฝอยจึงช่วยขับประจำเดือนเก่าที่คั่งค้างทับถมในมดลูก ช่วยให้ประจำเดือนไหลออกมาดีขึ้น เลือดมีสีแดงสะอาด นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนคุณแม่ และลดน้ำตาล, ไขมัน และคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วยค่ะ
5. ดีท็อกซ์มดลูกด้วยการทำ Castor Oil Pack
การแพ็คน้ำมันละหุ่งบำบัดมดลูกเป็นศาสตร์ทางตะวันตกเพื่อบำบัด หรือดีท๊อกซ์มดลูก และอวัยวะภายในของคุณแม่ ทั้งรังไข่, ลำไส้, ตับอ่อนและตับถุงน้ำดี โดยนำน้ำมันละหุ่งทาบริเวณหน้าท้องและประคบด้วยถุงน้ำร้อน การแพ็คน้ำมันละหุ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ดีเพราะช่วยเสริมสร้างสุขภาพมดลูก และสร้างสุขภาพที่ดีให้รังไข่ อีกทั้งกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด, ระบบเหลือง และระบบฮอร์โมนให้ดีขึ้น
หลายคนที่มีปัญหาเรื่องถุงน้ำในรังไข่, ช็อกโกแลตซีสต์, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และท่อนำไข่ตัน ซึ่งจัดเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลให้มีบุตรยาก รวมถึงแม่ๆ หลายคนที่มีระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี มีเลือดข้นเหนียว หรือระบบน้ำเหลืองที่ไม่ดี มีสารเคมีตกค้างในร่างกาย หรือหลายคนใส่ตัวอ่อนมาหลายครั้งก็ฝังตัวไม่ได้ ครูก้อยแนะนำให้ลองทำ Castor oil pack ได้ตั้งแต่เตรียมตั้งครรภ์เลยค่ะ
6. มดลูกต้องไม่ให้อักเสบติดเชื้อ เพิ่มโอกาสตัวอ่อนฝังตัว ไม่เสี่ยงแท้ง
รู้หรือไม่ว่ามดลูกของเราเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยที่โอบอุ้มมดลูก มดลูกจึงต้องการเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ แม่ๆ จึงตัองทานอาหารที่มีฤทธิ์อุ่นเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ในช่วงเตรียมผนังมดลูก ครูก้อยขอแนะนำให้กระดกน้ำมะกรูด SHOT วันละ 1 ขวดไม่ขาด เพราะน้ำมะกรูดสดมีไบโอฟลาโวนอยด์สูง ช่วยให้เลือดสูบฉีดและไหลเวียนเพื่อนำสารอาหารไปเลี้ยงมดลูกอย่างเพียงพอ อีกทั้งบำรุงเส้นเลือด และป้องกันมดลูกอักเสบติดเชื้ออีกด้วย
7. สร้างสภาวะมดลูกอุ่น มดลูกที่พร้อมรับการฝังตัวต้องเป็นมดลูกที่อุ่น
ทางการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าภาวะผู้มีบุตรยากเกิดจากภาวะไตหยางอ่อนแอ หรือที่เรียกว่า "มดลูกเย็น" โรคนี้เกิดจากความไม่สมดุลของหยินและหยางภายในร่างกาย โดยคุณแม่ที่มีลูกยากส่วนใหญ่มักมีอาการปวดศีรษะบ่อย เมื่อลุกขึ้นเร็วจะเกิดอาการวูบ บางคนมีอาการหนาวสั่นและไวต่ออากาศ ส่วนประจำเดือนก็มีภาวะผิดปกติตามมา เช่น ประจำเดือนมาไม่ตรงวันที่กำหนด, บางคนมาช้า, บางคนเร็ว หรือมามาก-น้อยผิดปกติ สีของประจำเดือนอาจจะค่อนข้างคล้ำและเป็นก้อน โดยก่อนหน้าจะมีประจำเดือนก็จะมีอาการปวดท้อง หรือปวดศีรษะจนไข้ด้วย ดังนั้นแม่ๆจึงควรทานอาหารที่มีฤทธิ์อุ่นและงดดื่มน้ำเย็น ควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจนเคยชิน เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ
เคล็ดลับสร้างสภาวะมดลูกอุ่นของครูก้อยคือการ "ดื่มขิงดำ" เพราะขิงดำเป็นขิงชนิดพิเศษที่มีสรรพคุณทางยามากกว่าขิงธรรมดาถึง 5 เท่า และให้รสชาติเข้มข้นเต็มรสขิงมากกว่าขิงธรรมดาถึง 3 เท่า การดื่มน้ำขิงดำเป็นประจำจะช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีและเพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนนำสารอาหารไปเลี้ยงมดลูกได้เต็มที่ ตัวขิงดำเองมีฤทธิ์อุ่น ช่วยปรับสภาพภาวะให้ร่างกายอบอุ่น, เพิ่มระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี เมื่อมดลูกอุ่นแล้วจะช่วยให้ติดลูกง่ายขึ้นด้วยนะคะ
ทั้งนี้แม่ๆ จะดื่มน้ำขิงช่วงไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้มีประจำเดือน ส่วนตัวครูก้อยเองจะดื่มทุกคืนก่อนนอน เพราะขิงทำให้เลือดไหลเวียนดี ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับลึก เหมาะสำหรับแม่ๆ ที่ต้องการเตรียมความพร้อมในการตั้งครรภ์ ทั้งนี้แม่ๆ อย่าลืมนอนหลับให้เพียงพอและพยายามไม่เครียดด้วยนะคะ เพื่อให้ตัวอ่อนน้อยๆ ฝังตัวได้อย่างมั่นคง อีกทั้งลดฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวร้ายที่มีผลต่อการจัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบและติดเชื้อในมดลูก หากปล่อยให้มดลูกอักเสบและติดเชื้อ จะส่งผลให้ตัวอ่อนไม่ฝังตัวหรือแท้งในระยะเริ่มต้นด้วย
นอกจากนี้ยังช่วยลดกลุ่มอาการ PMS หรือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่ฮอร์โมนกำลังแปรปรวน การดื่มขิงดำช่วยทำให้สมดุลฮอร์โมนปกติ ลดอาการตัวบวม ลดอาการปวดท้องประจำเดือน และไร้ปัญหาตกขาวแห้งมากวนใจด้วยค่ะ เพราะขิงดำมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา, แบคทีเรีย และจุลชีพย์ต่างๆ ที่เป็นตัวก่อให้เกิดอาการตกขาวที่เกิดการอักเสบและคันนั่นเอง
8. เคลียร์ปัญหาที่ขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน
แม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องเนื้องอกมดลูก, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก หรือพังผืดในอุ้งเชิงกราน ต้องรักษาให้หายหรือผ่าตัดออกกก่อนย้ายตัวอ่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ด้วยนะคะ เพราะปัญหาเหล่านี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน รวมถึงภาวะช็อกโกแลตซีสต์ที่เกิดจากประจำเดือนไหลย้อนกลับไปในโพรงมดลูก ทับถมเกิดเป็นซีสต์ขึ้น หากคุณแม่ทานอาหารที่ช่วยให้เลือดสูบฉีด อย่างเช่นดื่มน้ำมะกรูด หรือดื่มชาดอกคำฝอย ช่วยขับล้างประจำเดือนที่คั่งค้างออกอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ลดความเสี่ยงการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ได้ด้วยค่ะ
9. ไม่ชะล่าใจ หากเกิดความผิดปกติเพียงเล็กน้อยก็ตาม
หากเกิดความผิดปกติบริเวณมดลูกแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม ไม่ควรชะล่าใจหรือปล่อยไว้ให้อาการหายไปเอง หรือแม้แต่การซื้อยาลดปวดมาทานเองโดยไม่ได้ขอคำแนะนำจากแพทย์ เพราะการปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้มดลูกทำงานผิดปกติในระยะยาวได้
