แม่ปุ๊ก อายุ 40 ปี
top of page

แม่ปุ๊ก อายุ 40 ปี

รีวิวท้อง IVF, ICSI (เด็กหลอดแก้ว)

แม่ปุ๊ก เขมจิรา บุญทรัพย์ อายุ 40 ปี อาชีพพนักงานเอกชน จ.พิษณุโลก
แม่มีปัญหาท่อรังไข่ บวมตัน 2 ข้าง เคยทำ IUI 2 ครั้ง
IVF 3 ครั้ง ไม่ติด 😰 หันมาบำรุงตามคัมภีร์ครูก้อย
ทำ IVF สำเร็จค่าา 👏 ตอนนี้คลอดน้องเบลล่าแล้วค่าา

คลอดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 65 น้องแข็งแรง สมบูรณ์มากๆ เลยค่า

"อยากจะบอกครูก้อยว่าขอบคุณมากๆ ที่ให้กำลังใจ
ให้ความหวัง ให้เราได้มีกำลังใจทำ ให้เราได้เป็นแม่คน
เราภูมิใจที่ได้แบ่งปันสูตรบำรุงฉบับครูก้อยให้ทุกคนที่ถามเราว่าท้องได้ยังไง เราเล่าไปเหมือนเป็นครูก้อยเองเลยค่ะ
ว่าขั้นตอนเตรียมตัวสำคัญแค่ไหน
ขอบคุณครูก้อยมากนะคะ^ ^
ยินดีแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ขอบคุณเพจครูก้อยมากคร่า
คุ้มค่ามากกับการบำรุงไม่กี่บาท
แลกกับความมั่นใจเตรียมพร้อมในการมีบุตร
ขอบคุณครูก้อย มากค่ะ พยายามมีน้องมี 3 ปี
ทำ IUI 2 ครั้ง IVF 3 ครั้ง ไม่ติด" (แม่กล่าว☺️)

ช่วงเตรียมผนังรอบแรกไม่ผ่าน รอบต่อไปเน้น
โปรตีนวันละ 2-3 ซอง ผ่านตามหมอต้องการ แค่ 2 week
หมอยังตกใจ เพราะอายุเยอะ
กระตุ้นฮอร์ไม่ขึ้น กิน ทา สอด ตอนนั้น

📌สาเหตุท้องยาก
👉 มีปัญหาคือท่อรังไข่บวม ตัน 2 ข้าง
👉 ผนังมดลูกบาง
👉 IUI 2 ครั้งไม่ติด
👉 IVF 3 ครั้ง ไม่ติด

👩🏻ขั้นตอนการบำรุงของคุณแม่
👉 เน้นทานโปรตีน Ferty
👉 งาดำ
👉 น้ำมะกรูด
👉 ดอกคำฝอย

ตั้งเวลาปลุกสร้างวินัยในการบำรุงจริงจัง
จึงเก็บไข่ได้ 14 ฟอง พร้อมอ่านความสำเร็จของแม่ๆ
ที่แบ่งปันเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง แต่ก็ไม่สำเร็จ
เพราะท่อตันและเวลาจำกัด 1-2 เดือนจึงรีบฝังตัวอ่อน
เครียดมาก ไม่ติด เมื่อพร้อมอีกครั้ง
จึงหันไปทำ IVF 2 ครั้ง แทน
แต่ก็เริ่มเหนื่อย ผิดหวัง เสียใจ ลุ้นทุกครั้งว่าจะติดไหม
หมดเงินไปเยอะมาก ด้วยอายุที่เยอะ ผ่านมา 3 ปี
หมอบอกท่อตันจะเก็บไข่ก่อน หรือผ่าตัดส่องกล้องตัดท่อรังไข่ทิ้งก่อนดี เราจึงเลือกเก็บไข่ก่อน
เพราะเป็นช่วงโควิด คิวผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนต้องรอ
และเราก็ไม่แน่ใจผ่าแล้วบำรุงใหม่รอฟื้นตัวอีกนานแค่ไหน
จึงเร่งบำรุงตามสูตรแม่ก้อยในเวลา 1 เดือนเพื่อเก็บไข่
ทำขั้นตอนทุกอย่างให้จบก่อนผ่าตัด กระตุ้นไข่ได้
เพียง 5 ใบ คัดมา 3 และ เลี้ยงรอด 1 ตัว
ยิ่งกดดันไปใหญ่ หมอบอก 1 ตัวนี้
แข็งแรงมากๆ ในที่สุดก็สำเร็จได้
หลานสาวคนแรกของบ้านทั้ง 2 ครอบครัว
ตอนที่ลุ้นตรวจฉี่ติดไหม เป็นอะไรที่ตื่นเต้น
หวังมากค่ะ และกังวลมาก กลัวผิดหวังเหมือนที่ผ่านมา
รอบสุดท้ายที่ลุ้น คือตื่นมาตรวจตอน 6.00 น.
ตามที่หมอนัดให้ตรวจ ตรวจฉี่แบบสลึมสะลือไป
ไม่กล้าเปิดไฟ แล้วทิ้งไว้ไล่แฟนไปดู
แฟนก็ไม่กล้าไป จนเราเกือบทะเลาะกัน
ใจนึงตั้งใจอยากถ่ายคลิปอารมณ์ตอนที่ตรวจเจอ 2 ขีด
แต่ก็ไม่ได้ถ่าย เพราะกลัวผิดหวัง
เราเลยรวมความกล้าไปเปิดไฟูดูผลตรวจ 2 ขีดจริงๆค่ะ
วินาทีนั้นน้ำตาไหลคู่ สิ้นสุดการรอคอยได้เป็นพ่อแม่คนสำเร็จแล้ว เพิ่งรู้ว่าดีใจทั้งน้ำตามันเป็นแบบนี้นี่เอง^^

⭐️เกร็ดความรู้จากครูก้อย⭐️
🙋🏻‍♀️ท่อนำไข่ตัน หมดสิทธิ์ท้องแล้วใช่ไหม?
ตอบ : หากท่อนำไข่ตันข้างเดียว ยังมีโอกาสท้องธรรมชาติได้ค่ะ เพราะท่อนำไข่เรามี 2 ข้าง หากไข่ตกอีกข้างหนึ่งที่ไม่ตัน ก็มีโอกาสเจอกับสเปิร์มได้ ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้
แต่โอกาสก็น้อยกว่าคนที่มีท่อนำไข่ปกติทั้งสองข้างค่ะ เพราะต้องรอให้ตกด้านไม่ตันจึงมีโอกาสท้อง
และคนที่ท่อนำไข่ตัน 1 ข้างก็ยังสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์อย่าง IUI เชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกได้

🙋🏻‍♀️แล้งถ้าท่อนำไข่ตันทั้ง 2 ข้าง คือหมดสิทธิ ท้องแล้วใช่ไหม?
ตอบ : หมดสิทธิ์ท้องธรรมชาติค่ะ แต่สามารถท้องได้ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว

🙋🏻‍♀️แล้วทำไมเคส แม่วรินญา ท่อนำไข่ตัน2 ข้าง จึงสามารถท้องธรรมชาติได้?
ตอบ : ครูก้อยเจอเคสแบบนี้ไม่บ่อยค่ะ แต่เจออยู่ 3 เคส ในรอบ 5 ปี ที่เข้ามาปรึกษาด้วยปัญหาท่อนำไข่ตันทั้งสองข้าง มีผลฉีดสียืนยันว่าตันจริง แต่บำรุงไป บำรุงมา ท้องธรรมชาติก่อน

ครูก้อยขอวิเคราะห์ออกเป็น 2 กรณีว่า
1. ผลการฉีดสีอาจมีความผิดพลาด
2. ท่อนำไข่อาจไม่ตันถาวรค่ะ อาจจะมีการตัดบางส่วน และช่วงบำรุงมีการรับประทานอาหารที่มีการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น น้ำมะกรูด ขิงดำ ท่ออาจมีการขยายตัว ไข่ก็จะผลุบหลุดออกไปในท่อนำไข่ได้
(หากมันตันบางส่วน) ได้ก็เกิดการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ได้ค่ะ

อย่างไรก็ตามการตั้งครรภ์ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพไข่และคุณภาพของสเปิร์มร่วมด้วยแม้เราจะใช้เทคนิคการทำเด็กหลอดแก้วก็ตาม เพราะวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยท่อนำไข่ เพราะไปดูดไข่ หยิบไข่มาจากรับไข่โดยตรง แล้วนำมาปฏิสนธิภายนอก
โอกาสสำเร็จที่จะได้ ย่อมขึ้นกับคุณภาพไข่และคุณภาพของสเปิร์มค่ะ

👉ท่อนำไข่ คือ ปีกมดลูก เป็นท่อเล็กๆ ที่อยู่สองข้างมดลูก ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ให้สามารถเข้ามาปฏิสนธิกับอสุจิ จากนั้นจะเดินทางต่อเพื่อไปฝังตัวที่โพรงมดลูก ดังนั้น หากท่อนำไข่มีความผิดปกติที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ไข่จะไม่สามารถเดินทางมาปฏิสนธิกับอสุจิได้ แต่ในกรณีที่ท่อนำไข่เกิดการตีบตัน แม้อสุจิจะยังสามารถเล็ดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ แต่จะไม่สามารถเดินทางต่อไปเพื่อฝังตัวที่มดลูกได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดการฝังตัวที่ท่อนำไข่ และตามมาด้วยการท้องนอกมดลูกที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต!

โดยสาเหตุที่จะทำให้ท่อนำไข่ตีบตันมีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น
- การทำหมัน ที่จะส่งผลโดยตรงให้ท่อรังไข่ตีบตัน
- การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือ ปีกมดลูกอักเสบ ซึ่งเชื้อจะทำให้ท่อนำไข่ตัน บิดเบี้ยว เยื่อบุภายในเสียหาย
- การผ่าตัดในช่องท้อง อาทิ การผ่าตัดไส้ติ่ง เนื้องอกมดลูก เคยแท้ง เป็นต้น

โดยการตรวจเบื้องต้นว่าท่อนำไข่มีอาการผิดปกติหรือไม่ ก็สามารถทำได้ด้วยการฉีดสีเพื่อดูว่าสีสามารถผ่านเข้าไปในท่อนำไข่ได้ไหม รวมไปถึงการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อดูสภาพท่อนำไข่ว่ามีส่วนผิดปกติส่วนใด เพื่อใช้ในการพิจารณาการรักษา
ซึ่งการรักษาภาวะมีบุตรยากก็มีด้วยกันหลายวิธีแตกต่างกันไป แต่ในกรณีภาวะมีลูกยากที่เกิดจากท่อนำไข่ตีบตันนั้น การรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ
1. การผ่าตัดท่อนำไข่ ปัจจุบันจะนิยมใช้การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อเปิดรูใหม่ของท่อนำไข่ ในกรณีนี้หากไม่จำเป็นแพทย์มักจะไม่เลือกใช้ เพราะแม้การผ่าตัดจะเพิ่มโอกาสการประสบความสำเร็จในการมีลูก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการท้องนอกมดลูกเช่นกัน

2. การปฏิสนธิภายนอกหรือการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI นิยมใช้เทคนิคนี้ค่ะ โดยเก็บไข่ออกมาผสมกับสเปิร์มภายนอก เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิกันเอง จากนั้นนำตัวอ่อนที่ผสมกันแล้วกลับเข้าไปในมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
#เพราะการเตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

👉บำรุงไข่
👉บำรุงผนังมดลูก
👉ปรับสมดุลฮอร์โมน
👉ฝ่ายชายบำรุงสเปิร์มควบคู่ไปด้วย
โอกาสประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้วก็สูงขึ้น
เพราะความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณภาพของเซลล์ไข่เป็นหลัก และในขั้นตอนของการจับปฏิสนธิ (ICSI) ต้องอาศัยความสมบูรณ์ของสเปิร์มด้วย

เมื่อได้เป็นตัวอ่อน ตัวอ่อนคุณภาพดี และมีพลังงานเพียงพอเท่านั้นจึงจะเลี้ยงไปจนถึง day5 (ระยะบลาสโตซิสต์)
และมีโอกาสส่งคัดโครโมโซม

👉สิ่งที่ฝ่ายหญิงต้องเตรียมตัวบำรุงไป คือ "ไข่" เพื่อเพิ่มโอกาสให้ไข่สมบูรณ์ เป็นไข่สุก และมีพลังงานเพียงพอในการแบ่งเซลล์ไปถึงระยะบลาสโตซิสต์ให้ได้มากที่สุด ดังนั้นการบำรุงไข่ล่วงหน้าก่อนการเข้ากระบวนการอย่างน้อย 3 เดือน เป็นการเพิ่มโอกาสสำเร็จ

หากคัดโครโมโซมตัวอ่อนผ่านร่วมด้วย โอกาสตั้งครรภ์จะสูงถึง 75%
อีก 25% ที่เหลือ คือการเตรียมผนังมดลูก และการดูแลตัวเองหลังใส่ตัวอ่อน

👉กรณีคนอายุมาก 35-40 อย่าละเลยการบำรุงไข่ เพราะจำนวนไข่จะลดลงตามอายุอยู่แล้ว คุณภาพไข่ก็ต้องห้ามด้อย จึงจะเพิ่มโอกาสภุงบลาสต์ แล้วมีโอกาสส่งคัดโครโมโซมค่ะ

เรื่องราวของ

แม่ปุ๊ก อายุ 40 ปี

แม่ปุ๊ก อายุ 40 ปี

ทานผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง?

ครูก้อยขอแนะนำเซตบำรุงเพิ่มเติมดังนี้นะคะ

สั่งซื้อสินค้าผ่าน LINE@ เท่านั้น

ครูก้อย.jpg

ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์

สวัสดีค่ะ ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page