ตอบคำถามคาใจแม่
เก็บไข่ ทำ ICSI "จำนวน" หรือ"คุณภาพ" สำคัญกว่ากัน ?
แม่ๆ ที่เข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว เมื่อมาถึงขั้นตอน "การเก็บไข่" ก็ต้องมาลุ้นกันค่ะว่าจะได้ไข่กี่ใบ ก่อนการเก็บไข่ แม่ๆผ่านขั้นตอน "การฉีดกระตุ้นไข่" มาแล้ว หลังจากนั้นก็มีการติดตามผลจากการฉีดกระตุ้นไข่ แพทย์อัลตร้าซาวด์นับฟองไข่และเจาะเลือดเพื่อตรวจค่าฮอร์โมนเอสตราไดออล (E2)ร่วมด้วย เพื่อใช้ร่วมกันประเมินจำนวนฟองไข่ของแม่ๆ แต่จะเก็บได้กี่ฟองต้องลุ้นกันในวันจริงค่ะ
วันเก็บไข่หมอจะแจ้งว่าเก็บได้กี่ใบ....ซึ่งยิ่งได้จำนวนมากเท่าไหร่ เท่ากับว่าเราได้ลุ้นจำนวนตัวอ่อนมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งได้ตัวอ่อนมากก็เป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตามไข่ที่เก็บออกมานั้นไม่ได้หมายความว่าใช้ปฏิสนธิได้ทุกใบนะคะ นักวิทย์ต้องมาคัดคุณภาพของไข่กันค่ะ โดยแบ่งเป็น "ไข่สุก" และ ไข่ "อ่อน" ซึ่งไข่ที่สุกเท่านั้นที่จะสามารถนำไปใช้ปฏิสนธิต่อไปได้ค่ะ
คำถามยอดฮิต จำนวน หรือ คุณภาพของไข่ อันไหนสำคัญกว่ากันล่ะ
ขออธิบายไปทีละขั้นแบบนี้นะคะแม่ๆ
จำนวน : แน่นอนว่าจำนวนฟองไข่ที่เก็บได้มาก เป็นการเพิ่มโอกาสการได้ตัวอ่อนที่มากขึ้นและเป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ดังนั้นแม่ๆที่เข้าสู่การทำเด็กหลอดแก้ว ต้องมีการตรวจประเมินจำนวนฟองไข่ตั้งต้นก่อน ด้วยการตรวจฮอร์โมน AMH การตรวจประเมินจำนวนฟองไข่ตั้งต้นเป็นสิ่งที่แพทย์ต้องตรวจเพื่อประเมินว่าแม่ๆ มีฟองไข่ตั้งต้นเท่าใด เนื่องจากต้องมีการใช้ฮอร์โมนกระตุ้นไข่ ก่อนมีการเก็บไข่
การรู้ผลจำนวนฟองไข่ตั้งต้นจะช่วยในการทำนายการตอบสนองของรังไข่ว่าจะตอบสนองมากน้อยเพียงใดหากเข้ารับการกระตุ้นรังไข่ และใช้ทำนายการตอบสนองรังไข่ว่าจะมีความเสี่ยงของการเกิดภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไปหรือไม่ได้อีกด้วย
โดยการทำเด็กหลอดแก้วนั้น จำนวนของไข่มีผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยไข่ตั้งต้นควรมีจำนวนพอสมควร เนื่องจากโดยกระบวนการการรักษาน้ันทำให้เหลือตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีพอจะตั้งครรภ์ได้ไม่มาก ซึ่งอาจจะเหลือเพียงน้อยกว่า 30% ของไข่ที่กระตุ้นได้
แม่ๆหลายรายฮอร์โมน AMH ต่ำมาก ไม่สามารถกระตุ้นไข่ได้ หรือ ไม่มีไข่เลยก็ไม่สามารถเจ้ากระบวนการทำ ICSI ได้ค่ะ ทางออกคืออาจต้องรับไข่บริจาค
คุณภาพ : จากที่กล่าวข้างต้น เราต้องการจำนวนมากเพื่อเพิ่มโอกาส แต่หัวใจหลักคือ จากจำนวนที่มากนั้นต้องมาคัดเลือกไข่ที่มีคุณภาพกันอีกครั้งค่ะ หากได้ไข่จำนวนเยอะ แต่ไข่ที่เก็บได้เป็นไข่อ่อนทั้งหมด ก็ไม่สามารถนำไปปฏิสนธิต่อไปได้เลยค่ะ
ไข่สุก : คือ ไข่ที่มีแนวโน้มการแบ่งเซลล์เป็นปกติ หรืออยู่ในระยะ Metaphase II (MII) พร้อมที่จะทำการปฏิสนธิได้ ส่วน Metaphase I (MI)เป็นระยะไข่อ่อนที่ยังไม่พร้อมที่จะทำการปฏิสนธิค่ ไข่สุกสังเกตุจาก "โพลาร์บอดี้" (Polar Body) จะเป็นจุดเล็กๆที่ยื่นออกมาจากเซลล์ไข่ เมื่อเก็บไข่แล้วนักวิทย์ก็จะใช้ตรงนี้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกไข่ไปปฏิสนธิ ไข่ที่มี PB คือไข่ที่สุก หรือ mature สุกพร้อมปฏิสนธินั่นเองค่ะ ส่วนไข่อ่อนจะไม่มีจุด PB นี้ ใช้ปฏิสนธิไม่ได้
ไข่สุก : ถ้าเทียบกับการท้องธรรมชาติ ก็คือไข่ที่ถูกหล่อเลี้ยงด้วยฮอร์โมนเพศที่สมบูรณ์ รอบเดือนปกติ ไข่โต ตกในวันไข่ตกนั่นเองค่ะ
นอกจากดูจาก PB แล้ว นักวิทย์จะดูคุณภาพของเซลล์ไข่ด้วย โดยประเมินได้จาก
ความเรียบเนียนเนื้อไข่
ความยืดหยุ่นขณะทำ ICSI (จับสเปิร์มเจาะไข่)
รูปร่างทั่วไป มี 1 polar body และจุดไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
สี ไม่คล้ำ ไม่มีขยะเซลล์
ไซโตพลาสซึมมีลักษณะไม่หยาบ สีไม่คล้ำ
เซลล์ไข่ที่ดี ไม่ควรมีช่องว่างระหว่างไซโตพลาสซึม กับ zona pellucida (perivitelline space) มากเกินไป
จะเห็นได้ว่าคุณภาพของเซลล์ไข่ การเจริญเติบโตของไข่ที่สมบูรณ์ (ไข่สุก) ต้องสร้างมาจากภายในร่างกายของแม่ๆ เอง ไม่สามารถมาเพิ่มคุณภาพในภายหลังที่เก็บออกมาแล้วได้
ครูก้อยจึงเน้นย้ำเรื่องการบำรุงไข่ล่วงหน้าก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จค่ะ
แล้วเราจะมีไข่ที่มีคุณภาพได้อย่างไร
มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการทานอาหารและภาวะเจริญพันธุ์ หลายฉบับ ศึกษาพบว่า การทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจะช่วยบำรุง ซ่อมแซมเซลล์และปกป้องเซลล์ไข่จากการถูกทำให้เสียหายจากอนุมูลอิสระทำให้เซลล์ไข่สมบูรณ์ขึ้น เป็นการเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้
โดยเน้นการรับประทานโปรตีน ลดคาร์โบไฮเดรตลง ทานไขมันดี และ "เน้นสารต้านอนุมูลอิสระ"
การทานอาหารแบบนี้จะส่งผลต่อเซลล์ไข่ที่สมบูรณ์ ฮอร์โมนที่สมดุลและส่งผลต่อวงจรการตกไข่ที่เป็นปกติอีกด้วย
นอกจากนี้การได้รับวิตามินและแร่ธาตุเพียงพอก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ เพราะวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญเช่น โฟลิก fish oil โคเอ็นไซม์ Q10 ธาตุเหล็ก Zinc วิตามิน B รวม วิตามิน C วิตามิน D3 มีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ไข่ ช่วยให้ไข่ฌตสมบูรณ์ ตัวอ่อนเติบโตและฝังตัวได้อย่างสมบูรณ์ ลดความเสี่ยงทารกพิการแต่กำเนิด เป็นต้น
ถึงแม้จะเก็บไข่ได้น้อย แต่ถ้าเป็น "ไข่ที่มีคุณภาพ" ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นแม่ๆ ต้องรู้จักบำรุงเซลล์ไข่ของเราให้มีคุณภาพ เป็น "ไข่ทองคำ" เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว และไข่ที่มีคุณภาพใบนี้ก็จะกลายมาเป็นเบบี๋ของเราในอนาคตค่ะ
ดังนั้นจะเห็นว่า ทั้งจำนวน และ คุณภาพต่างก็มีความสำคัญ แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณภาพจะเป็นตัวบ่งบอกว่าไข่ของแม่ๆจะนำไปใช้ปฏิสนธิได้หรือไม่ และจะปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเซลล์ไข่เป็นสำคัญค่ะ บำรุงไข่ให้สมบูรณ์พร้อม ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์นะคะ