ทำไมต้อง "คัดโครโมโซมตัวอ่อน" ?
top of page

ตอบคำถามคาใจแม่

ทำไมต้อง "คัดโครโมโซมตัวอ่อน" ?

5 ข้อดีของการ "คัดโครโมโซมตัวอ่อน"

การคัดโครโมโซมตัวอ่อน เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์

ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วหรือ ICSI นั้นเมื่อแม่ๆได้ตัวอ่อนแล้ว ก่อนจะทำการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก คุณหมออาจแนะนำให้คัดโครโมโซมตัวอ่อนก่อน เพื่อเป็นการคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนนั้น เนื่องจากว่า
ความผิดปกติทางพันธุกรรมจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการฝังตัวของตัวอ่อนซึ่งอาจทำให้โอกาสการตั้งครรภ์ลดลงค่ะ

จากข้อมูลทางการแพทย์แม่ที่มีการตั้งครรภ์เมื่ออายุมากขึ้นจะยิ่งเสี่ยงที่จะมีตัวอ่อนผิดปกติในลักษณะการกลายพันธุ์ของโครโมโซมสูงทำให้โอกาสการตั้งครรภ์ต่ำ หรือ บางรายพบปัญหาการแท้งซ้ำซากซึ่งเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมในตัวอ่อนเองค่ะ

ดังนั้นการคัดโครโมโซมตัวอ่อนจึงเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ เพราะตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติจะมีโอกาสฝังตัวที่มดลูกได้อย่างสมบูรณ์ เพิ่มโอกาสท้องมากขึ้น และลดความเสี่ยงโรคทางพันธุกรรมค่ะ

ดังนั้น 5 ข้อดีของการคัดโครโมโซมตัวอ่อน
มีดังนี้ค่ะ

1. #เพิ่มอัตราการฝังตัว
เพราะตัวอ่อนที่ผ่านการคัดแล้วเป็นตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติ ไม่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม ส่งผลต่ออัตราการฝังตัวที่สูงขึ้น เนื่องจากสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ตัวอ่อนไม่ฝังตัวเกิดจากความผิดปกติทางโครโมโซมนั่นเองค่ะ

2. #ลดอัตราการแท้ง
แม่ๆหลายเคสประสบปัญหาการแท้งบ่อย ท้งซ้ำซาก บางคนคิดว่าทำเด็กหลอดแก้วแล้วทำไมยังแท้ง ซึ่งบางเคสพบว่าไม่ได้คัดโครโครโมโซมตัวอ่อน ตัวอ่อนบางตัวเลี้ยงถึงระยะบลาสต์โตซิสต์ก็จริง ดูแค่ภายนอกไม่สามารถรู้ถึงความผิดปกติทางโครโมโซมได้ค่ะ ถึงแม้จะใส่ตัวอ่อนระยะบลาสต์ก็มีโอกาสแท้งได้ หากตัวอ่อนตัวนั้นโครโมโซมผิดปกติ

3. #ลดอัตราท้องลม
การท้องลมก็คือการแท้งนั่นเอง เป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติชนิดหนึ่งที่เกิดจาก ไข่กับอสุจิผสมกันเป็นตัวอ่อนแล้ว มีการฝังตัวในระยะะแรกแล้ว แต่ส่วนของตัวเด็กฝ่อหายไปก่อน เหลือเพียงแค่ถุงการตั้งครรภ์ สาเหตุของท้องลมนั้นส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 50 เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมตัวอ่อน ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งอัตราการเกิดท้องลมจะสัมพันธ์กับอายุของฝ่ายหญิง ยิ่งอายุมากความเสี่ยงในการเกิดท้องลมก็มีมากขึ้น

4. #คัดแยกตัวอ่อนที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
การคัดโครโมโซมตัวอ่อน จะคัดได้หากแม่ๆมีตัวอ่อนที่เลี้ยงมาถึงระยะบลาสโตซิสต์นะคะ เพราะระยะก่อนหน้านี้ตัวอ่อนยังไม่สมบูรณ์การดึงเซลล์มาตรวจอาจเป็นการทำลายตัวอ่อนได้ การคัดโครโมโซมช่วยให้ทราบถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม โรคทางพันธุกรรมต่างๆ เช่น ดาวน์ซินโดรม ธาลัสซีเมีย ซึ่งหากตรวจพบ แพทย์ก็จะคัดแยกออกมา เหลือตัวที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งจะเป็นตัวที่จะย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกค่ะ

5. #ทราบเพศ
ข้อนี้เป็นเพียงผลพลอยได้จากการตรวจโครโมโซม เพราะจะทำให้รู้โครโมโซมเพศด้วย อย่างไรก็ตามหากแม่ๆ มีตัวอ่อนที่คัดผ่านหลายตัวและเพศแตกต่างกัน แพทย์จะพิจารณาเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุด เพราะตัวอ่อนจะมีเกณฑ์ในการคัดเกรดด้วยค่ะ โดยตามกฎหมายไม่สามารถเลือกเพศได้ค่ะ

การตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนเหมาะกับใคร

สตรีที่มีอายุมาก ( อายุกว่า 35 ปี )

สตรีที่มีประวัติการแท้งบุตรหลายครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ

สตรีที่เคยมีประวัติแท้งบุตรที่โครโมโมโซมผิดปกติ

คู่แต่งงานที่เคยทำเด็กหลอดแก้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป

กลุ่มมารดาที่มีความเสี่ยงข้างต้นควรตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน รวมถึงกลุ่มผู้ที่มีโรคพันธุกรรมในครอบครัวที่อาจถ่ายทอดโรคดังกล่าวไปยังรุ่นลูก เป็นการลดความเสี่ยงให้กับครอบครัวที่จะมีบุตรเกิดมาพร้อมกับโรคทางพันธุกรรม

วิธีการคัดโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการฝังตัวเป็นอย่างไร

ตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีจะได้รับการแยกเซลล์ออกมา 1-2 เซลล์ ด้วยเครื่องมือชนิดพิเศษโดยใช้เลเซอร์หรือกรด

เซลล์ที่ได้จะถูกนำมาตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยว่าเซลล์นั้นมีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ต้องการตรวจหาหรือไม่

ตัวอ่อนเฉพาะที่มีเซลล์ที่ตรวจพบว่ามีความปกติเท่านั้นที่จะได้ย้ายเข้าโพรงมดลูกตามขั้นตอนการย้ายตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูกต่อไป

อย่างไรก็ตามการตรวจโครโมโซมไม่สามารถดึงเอาทุกเซลล์มาตรวจได้ จะดึงแค่เซลล์บางส่วนมาตรวจ ดังนั้นจึงยังมีข้อจำกัดตรงนี้อยู่ แม่ๆ จึงต้องเผื่อใจไว้บ้างค่ะ ถึงแม้การแปรผลจากการตรวจโครโมโซมคือผ่านก็จริง แต่ก็ยังมีเซลล์ที่ไม่ได้ตรวจ มันก็อาจเป็นเซลล์เหล่านั้นก็ได้ที่ผิดปกติและส่งผลต่อการฝังตัว ประกอบกับยังมีปัจจัยอื่นอีกได้แก่ ความแข็งแรงของผนังมดลูก การดูแลตัวเองหลังใส่ตัวอ่อน หรือ การได้รับสารเคมีบางชนิดอาจส่งผลต่อการฝังตัวได้ค่ะ

ท้ายที่สุดนี้การดูแลร่างกายให้แข็งแรง เตรียมบำรุงผนังมดลูกให้พร้อมก่อนใส่ตัวอ่อน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลตัวเองหลังใส่ตัวอ่อนก็จะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการฝังตัวได้ค่ะ

ครูก้อย.jpg

คุยกับครูก้อย/ทีมงาน

ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page