แม่ๆ รู้ไหม สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คู่ของเรามีบุตรยาก คือ "อายุของฝ่ายหญิง" ค่ะ อายุที่มากขึ้นส่งผลต่อคุณภาพของเซลล์ไข่ พลังงานในการแบ่งเซลล์ของเซลล์ไข่ลดลง อัตราความผิดปกติทางโครโมโซมของเซลล์ไข่สูงขึ้น โดยในทางการแพทย์ช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไปเป็นช่วงขาลงของวัยเจริญพันธุ์
👨⚕️ ข้อมูลจาก นพ.ปภากร มิ่งมิตรพัฒนะกุล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการเจริญพันธุ์และรักษาผู้มีบุตรยาก ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก รพ.กรุงเทพ อธิบายเรื่องการแบ่งเซลล์ในร่างกายไว้ดังนี้
🧬 เซลล์ร่างกายประกอบด้วยโครโมโซมทั้งหมด 46 ชิ้นหรือ 23 คู่ การที่ทารกจะลืมตาดูโลกนั้นมีจุดเริ่มต้นจากเซลล์สืบพันธุ์ (Gamete) ของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเซลล์สืบพันธุ์นี้ก็จะนำเอาสาร
พันธุกรรมของพ่อและแม่ไปรวมกันเกิดขึ้นเป็นชีวิตใหม่ขึ้นมา ดังนั้นการที่แต่ละฝ่ายต้องส่งเซลล์สืบพันธุ์ไปปฏิสนธิกันให้เป็นชีวิตใหม่จะต้องส่งไปเพียง 23 ชิ้นเพื่อให้รวมกันเป็น 46 ชิ้น ซึ่งเป็นจำนวนปกติของเซลล์มนุษย์
🧬 กลไกการแบ่งโครโมโซมจาก 46 ชิ้นในเซลล์ร่างกายปกติไปเป็น 23 ชิ้นในไข่นั้น ไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกครั้ง หมายความว่าไข่บางใบอาจแบ่งโครโมโซมได้ 23 ชิ้น หรืออาจมากไปเป็น 24 ชิ้น หรืออาจขาดไปเหลือแค่ 22 ชิ้น
🧬 ดังนั้น เมื่อไข่ใบที่มีจำนวน "โครโมโซมไม่ปกติ" แม้ไปผสมกับอสุจิที่มีจำนวนโครโมโซมปกติ ตัวอ่อนที่เกิดมาจะมีจำนวนโครโมโซมไม่ปกติ อาจมากกว่าหรือน้อยกว่า 46 ชิ้น ทำให้ตัวอ่อนแสดงความผิดปกติในหลายรูปแบบ ได้แก่
✔ ตัวอ่อนหยุดการแบ่งเซลล์ตั้งแต่ยังไม่ฝังตัว
✔ ตัวอ่อนฝังตัวไม่ได้
✔ ตัวอ่อนฝังตัวได้แต่ไม่สามารถสร้างอวัยวะและเนื้อเยื่อได้ตามปกติหรือท้องลม
✔ ตัวอ่อนฝังตัวได้แต่แท้งในระยะต่อมา
✔ หรือตัวอ่อนเติบโตจนคลอดออกมา แต่มีความผิดปกติทางร่างกายหรือสติปัญญา
ซึ่งอัตราความคลาดเคลื่อนของโครโมโซมในไข่จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้นในแต่ละปี จึงทำให้ผู้หญิงที่มีอายุมากตั้งครรภ์ยากและมีโอกาสแท้งบุตรสูงขึ้น
🔴 อัตราความผิดปกติของโครโมโซมในเซลล์ไข่สัมพันธุ์กับอายุที่เพิ่มขึ้นดังนี้
โดยสถิติความผิดปกติของโครโซมของเซลล์ไข่ในแต่ละช่วงอายุปรากฏตามข้อมูล ดังนี้
🔹️ อายุ 25 โครโมโซมผิดปกติ 25%
🔹️ อายุ 35 โครโมโซมผิดปกติ 50%
🔹️ อายุ 40 โครโมโซมผิดปกติ 85-90%
🔴 #อนุมูลอิสระ ส่งผลต่อความเสื่อมของเซลล์ไข่ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้โครโมโซมเซลล์ไข่ผิดปกติ
โดยทั่วไปแล้วในร่างกายมีการสร้างอนุมูลอิสระออกมาตลอดเวลาจากกระบวนการเผาผลาญสารอาหาร อนุมูลอิสระส่วนใหญ่มีอะตอมของออกซิเจนที่ไวต่อการทำปฏิกริยาออกซิเดชัน หรือเรียกว่า Reactive Oxygen Species (ROS) ซึ่งสร้างความเสียหายแก่เซลล์ หากร่างกายเรามีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่จะมาจัดการกับ ROS ไม่เพียงพอจะทำให้เซลล์ต่างๆถูกทำลายจนเสื่อมไปเรื่อยๆ รวมถึงเซลล์ไข่ของผู้หญิงด้วย
📚 มีงานวิจัยศึกษาพบว่า สาเหตุหลักของการทำเด็กหลอดแก้วแล้วไม่ประสบความสำเร็จมาจากตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ (รองลงมาคือปัญหาเรื่องผนังมดลูก) ซึ่ง ตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์อาจมาจากโครโมโซมผิดปกติ สืบเนื่องมาจากเซลล์ไข่มีความเสื่อมจากอนุมูลอิสระ หรือไข่ที่ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นนั่นเอง เมื่อเกิดการรวมตัวกับ DNA แล้วทำให้โมเลกุลของ DNA เปลี่ยนไป ส่งผลให้โครโมโซมเสียหาย หรือเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ชั้น lipid ซึ่งเป็นองค์ประกอบในผนังเซลล์ทำให้เซลล์ไข่เสื่อมสภาพ (Oocyte aging)
นอกจากนี้อนุมูลอิสระจะสร้างความเสียหายต่อเซลล์ไข่ได้มากยิ่งขึ้นในกระบวนการ “ทำเด็กหลอดแก้ว” เนื่องจากเซลล์ไข่ที่เก็บออกมา จะไม่มีของเหลวที่เรียกว่า “follicular fluid” ป้องกันอยู่เหมือนในร่างกายมนุษย์ ทำให้เซลล์ไข่ถูกทำลายและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นไปอีก
🔴 เราจะลดความเสื่อมของเซลล์ไข่จากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระได้อย่างไร❓
สำหรับผู้หญิงที่มีบุตรยาก ที่ต้องใช้วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) การมีเซลล์ไข่ที่มีคุณภาพเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้ตัวอ่อนที่สมบูรณ์ ส่งผลต่อโอกาสในความสำเร็จ อย่างไรก็ตามการทำเด็กหลอดแก้วเป็นการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการคัดเลือกไข่และอสุจิตัวที่ดีที่สุด ซึ่งเทคโนโลยีช่วยในการคัดเลือก ไข่ที่ดีได้ แต่ ไม่สามารถทำให้ไข่มีคุณภาพได้
"คุณภาพของไข่" นั้นอยู่ที่การบำรุงและสภาพความสมบูรณ์ของร่างกายของแม่ๆ เอง ที่ต้องเตรียม
บำรุง "วัตถุดิบตั้งต้น" ไปให้พร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมเซลล์ไข่ให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด และถูกทำลายน้อยที่สุดก่อนเข้ากระบวนการทางการแพทย์ด้วยการทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอค่ะ เน้นอาหารที่ให้สารอนุมูลอิสระสูง เช่นผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี่ มะนาวและมะกรูดของไทย
🍋 โดยเฉพาะน้ำมะกรูดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ทั้งวิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์ และ เควอซิทีน ซึ่งมีงานวิจัยศึกษาพบว่า ช่วยลดอัตราไข่ฝ่อได้ถึง 80% และเพิ่มอัตราตัวอ่อนถึงระยะบลาสโตซิสต์ได้อีกเท่าตัว
🔴 #อายุมากขึ้นพลังงานในเซลล์ไข่ลดลง
เมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้น พลังงานในเซลล์ไข่จะด้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้การแบ่งเซลล์ของตัวอ่อนมีประสิทธิภาพด้อยลง แบ่งเซลล์ได้ช้า ไม่สามารถเจริญเติบโตไปเป็นบลาสโตซิสต์ หรือบางครั้งหยุดโตกลางทาง หรือไปหยุดการเจริญเติบโต
หลังจากใส่เข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง ทำให้ไม่เกิดการฝังตัวอ่อน จึงไม่เกิดการตั้งครรภ์
ในเซลล์ไข่นั้นจะมีไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) ซึ่งไมโตคอนเดรียนี้ทำหน้าที่ในการผลิตพลังงานให้กับเซลล์ไข่ โดยพลังงานดังกล่าวจะอยู่ในรูปของ ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานของเซลล์
ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานไฟฟ้าที่คอยสร้างพลังงานให้กับเซลล์ต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น และทำให้เซลล์ไข่มีพลังในการแบ่งตัวได้อย่างเป็นปกตินั่นเอง
📚 จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Reproductive Biology amd Endocrinology เมื่อปี 2018
ศึกษาพบว่าเมื่อผู้หญิงอายุเพิ่มมากขึ้นประสิทธิภาพในการทำงานของ Mitocondria ลดลง ทำให้เซลล์ไข่ไร้พลัง เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงอายุมากมีบุตรยาก
🔴 เราจะเพิ่มพลังงานในเซลล์ไข่ได้อย่างไร❓
📚 มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and
Sterility เมื่อปี 2009 ศึกษาพบว่า Co-enzyme Q10 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรังไข่ ทำให้ไข่มีคุณภาพมากขึ้น โดยได้ทำการทดลองในหนูทดลองที่มีอายุมาก และสรุปผลว่า การทาน Co-enzyme Q10 อาจช่วยเพิ่มคุณภาพของเซลล์ไข่ของผู้หญิงที่มีอายุมาก
📚 อีกงานวิจัยอีกหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility เมื่อปี 2020 ได้ทำการทดลองให้ผู้หญิงอายุมาก (อายุ 38-46 ปี) พบว่าการรับประทาน Q10 ช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์ไข่รวมถึง ลดอัตราการแบ่งเซลล์และโครโมโซมผิดปกติของเซลล์ไข่อีกด้วย
🔴 Coenzyme Q10 คืออะไร❓
CoQ10 คือสารที่มีคุณสมบัติคล้ายวิตามินซึ่งร่างกายสามารถผลิตเองได้ในปริมาณหนึ่ง พบในทุกเซลล์ของร่างกาย โดยจะอยู่ที่ส่วนเยื่อหุ้ม (Membrane) ของไมโตคอนเดรีย
Co-enzyme Q10 ถูกพบมากในอวัยวะที่ต้องการ
พลังงานสูง ซึ่งจะมีจำนวนไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) มาก เช่น หัวใจ ตับ กล้ามเนื้อ สมอง และพบได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต รวมไปถึงเซลล์ไข่ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ ไมโตคอนเดรียมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างพลังงาน ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกาย
มีคุณสมบัติ ช่วยเพิ่มพลังงาน ซึ่ง Co-enzyme Q10 ทำงานโดยช่วยเพิ่มพลังให้กับ mitocondria ของเซล์ไข่นั่นเองค่ะ
📚 จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Free radical Biology and Medicine เมื่อปี 2019 ศึกษาพบว่า Q10 จะลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นผู้ญิงที่เตรียมตัวตั้งครรภ์หรือเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วควรได้รับ Q10 ในปริมาณที่เพียงพอเพื่อทำให้ไมโตคอนเดรียทำงานได้ดียิ่งขึ้นซึ่งปัจจุบันสามารถหาทานได้จากวิตามินเสริม 💊 Q10 ช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์ไข่แบ่งตัวได้อย่างสมบูรณ์ เป็นการเพิ่มโอกาสได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพและส่งผลต่ออัตราการตั้งครรภ์ที่สูงขึ้นค่ะ
📱 ชมคลิปครูก้อยอธิบาย เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปเก็บไข่ทำ ICSI (คลิกชมเลยค่ะ) 👇👇👇👇
📱 ชมคลิป 3 ข้อต้องรู้ หากอยากมีไข่สวยสมบูรณ์
(คลิกชมเลยค่ะ) 👇👇👇👇
📱 ชมรายการ Research Talk งานวิจัยเผย Coenzyme Q10 ช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์ไข่
(คลิกชมเลยค่ะ) 👇👇👇👇
🍋 ศึกษาน้ำมะกรูดครูก้อย100% “สูตรคนท้องยาก” บำรุงไข่ เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์
👇👇👇👇 (คลิกอ่านเลยค่ะ)
🟣 ศึกษาข้อมูลรายละเอียด OvaAll วิตามินตัวจบ สยบทุกปัญหาท้องยาก วิตามินบำรุงไข่ที่ครบที่สุด เพื่อผู้มีบุตรยาก👇👇👇👇 (คลิกอ่านเลยค่ะ)
💓 ศึกษาการบำรุงไข่ บำรุงมดลูก ปรับสมดุลฮอร์โมนให้ท้องธรรมชาติ
👇👇👇👇 (คลิกอ่านเลยค่ะ)
👩🦰 ศึกษาการบำรุงไข่ล่วงหน้า 3 เดือนก่อนไปทำ IUI,IVF,ICSI
👇👇👇👇 (คลิกอ่านเลยค่ะ)
▶️ 🆔 ปรึกษา/สั่งผลิตภัณฑ์บำรุงแบบครูก้อย ที่ Line Official
คลิกลิ้งค์นี้เลย 👉 https://lin.ee/fBa4xkz
📞 Call Center : 083-4395882 (ในวัน-เวลาทำการค่ะ)
#ครูก้อยBabyandMom
Comments