
งานวิจัยเผยประโยชน์ของมะรุม
อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร
มะรุมจัดเป็นพืชผักพื้นบ้านของไทยซึ่งเป็นพืชผักสมุนไพรโดยมีต้นกำเนิดในแถบทวีปเอเชีย อย่างประเทศอินเดียและศรีลังกา โดยเป็นไม้ยืนต้นที่โตเร็ว ปลูกง่ายในเขตร้อน ทนแล้ง สามารถรับประทานได้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นฝัก ใบ ดอก เมล็ด ราก เป็นต้น แต่ถ้านำมาใช้เป็นยาสมุนไพรนั้นจะใช้เกือบทุกส่วนของต้นมะรุมรวมทั้งเปลือกด้วย
มะรุมอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุรวมหลายชนิด ซึ่งจุดเด่นของมะรุมก็คือจะมีวิตามินเอ ซี แคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็กในปริมาณที่สูงมาก
👉ในภาพรวมของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการวิจัยในระดับเซลล์และสัตว์ทดลองพบว่า มะรุมมีฤทธิ์ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น
🔺️ฤทธิ์ลดความดันโลหิต
🔺️ต้านการเกิดเนื้องอก
🔺️ต้านมะเร็ง
🔺️ลดระดับคอเลสเตอรอล
🔺️ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
🔺️ป้องกันตับอักเสบ
🔺️ต้านออกซิเดชัน
🔺️ต้านเชื้อแบคทีเรีย
🔺️ลดระดับน้ำตาล
🔺️และฤทธิ์ต้านการอักเสบ
📣ครูก้อยจะพามาศึกษาคุณค่าทางอาหารและสรรพคุณของมะรุมที่มีงานวิจัยรับรองกันค่ะ
1. มะรุมเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก
โดยเฉพาะในใบมะรุมเป็นแหล่ง
รวมของวิตามินและแร่ธาตุ โดยในใบมะรุมสับ 1 ถ้วย (21 กรัม)ให้สารอาหารดังนี้
🔸️Protein: 2 grams
🔸️Vitamin B6: 19% of the RDA
🔸️Vitamin C: 12% of the RDA
🔸️Iron: 11% of the RDA
🔸️Riboflavin (B2): 11% of the RDA
🔸️Vitamin A (from beta-carotene): 9% of the RDA
🔸️Magnesium: 8% of the RDA
ส่วนใน ผงสกัดจากใบมะรุม 1 กรัมจะมีคุณค่าอาหารดังนี้
🔸️มีเบต้าแคโรทีนสูงกว่าแครอท 25 เท่า
🔸️มีวิตามิน C สูงกว่าส้ม 1/2 เท่า
🔸️มีแคลเซียมสูงกว่านม 17 เท่า
🔸️มีธาตุเหล็กสูงกว่าสปิแนช 25 เท่า
.
2. มะรุมอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
สารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วย
ป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากการออกซิเดชั่น จึงเป็นการช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจหรือโรคเบาหวานได้
สารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายประเภทที่พบในมะรุมนอกจากวิตามิน C และ เบต้าแคโรทีนแล้วยังรวมไปถึง
🔸️เควอซิทิน (Quercitin) สุดยอดสาร anti-oxidants ที่ช่วยในเรื่องการลดความดันโลหิต
🔸️กรดคลอโรเจนิค (Clorogenic acid) ช่วยปรับสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด (glucose)หลังการรับประทานอาหาร เป็นการ
ช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสเข้ากระแสเลือด
.
3.มะรุมช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
น้ำตาลในเลือดสูงส่งผลต่อการเกิดโรคเบาหวาน และมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
👉มีการศึกษาในผู้หญิง 30 คน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การรับประทานผงใบมะรุม 1.5 ช้อนชา (7grams) ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
โดยเฉลี่ย 13.5%
👉และยังมีการศึกษากลุ่มเล็กกับผู้ป่วยเบาหวาน 6 คน ที่ให้ทานใบมะรุมในมื้ออาหารวันละ 50 กรัม ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 21 %
4. มะรุมช่วยลดอาการอักเสบ
การอักเสบของเซลล์เป็นการที่ร่างกายกำลังตอบโต้กับการติดเชื้อหรือการบาดเจ็บ หากร่างกายมีการอักเสบเรื้อรังก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคหัวใจ
หรือโรคมะเร็งได้