วิตามินซีถือเป็นสารอาหารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย หากร่างกายขาดวิตามินซีเป็นเวลานาน ก็อาจมีผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ในระยะยาว วันนี้ครูก้อยจะมาพูดถึงวิตามินข้อดีของวิตามินซีที่คุณควรรู้ เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นกันค่ะ
5 ข้อดีของวิตามินซีที่คุณควรรู้
1. บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่และลดริ้วรอยแห่งวัย อีกทั้งกระตุ้นการสร้างโปรตีน คอลลาเจน และอิลาสติน (Elastin) ที่ทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่าง ๆ เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและเสริมสร้างความแข็งแรงของโมเลกุลของคอลลาเจน อีกทั้งช่วยเพิ่มระดับวิตามินซีในชั้นผิว, ลดเนื้อเยื่อผิวที่ถูกทำลายจากรังสี UV จึงช่วยให้ผิวพรรณกระชับ เต่งตึง
2. เสริมสร้างภูมิต้านทาน
วิตามินซีช่วยกระตุ้นและเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เม็ดเลือดขาว (ลิมโฟไซต์และฟาโกไซต์) ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ, ปกป้องเซลล์จากโมเลกุลที่อันตราย อย่างอนุมูลอิสระ, ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่เข้ามาสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง, ช่วยสมานแผลให้หายไวยิ่งขึ้น, เป็นหวัดยาก หากป่วยเป็นหวัดก็จะหายไวกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวิตามินซีเลย นอกจากนี้ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระที่มาจากมลพิษนอกบ้านและกระบวนการเผาผลาญอาหารของร่างกาย
3. เสริมสร้างความจำ
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีผลต่อความคิดและความจำ ช่วยบำรุงการทำงานของสมอง เมื่อร่างกายได้รับวิตามินซีเพียงพอจะเสริมประสิทธิภาพในการจดจำและจดจ่ออยู่กับการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังช่วยปรับอารมณ์ให้สมดุลและลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าอีกด้วยค่ะ
4. ป้องกันการขาดธาตุเหล็ก
วิตามินซีจะช่วยเปลี่ยนธาตุเหล็กที่ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีให้ดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น เสริมประสิทธิภาพของการดูดซึมธาตุเหล็กและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคโลหิตจาง
5. เสริมสุขภาพเหงือกและฟัน
วิตามินซีช่วยรักษาโครงสร้างเหงือกและส่วนอื่นภายในช่องปาก เสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในช่องปาก ช่วยป้องกันภาวะเลือดออกตามไรฟัน แผลร้อนใน และเหงือกอักเสบในระยะเริ่มต้น
วิตามินซีพบได้ในไหนบ้าง
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี บลูเบอร์รี
ผลไม้บางชนิด เช่น ส้ม สับปะรด ลูกแพร์ องุ่น อะโวคาโด กีวี มะม่วง มะละกอ
ผักบางชนิด เช่น บรอกโคลี คะน้า มะรุม มะระขี้นก ดอกขี้เหล็ก ปวยเล้ง
ใครบ้างที่ควรระมัดระวังในการทานวิตามินซี
ผู้ป่วยโรคไต
ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย
ผู้ป่วยโรค G6PD (แพ้ถั่วปากอ้า)
ผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง
ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ควรกินวิตามินซีตอนไหนดีที่สุด
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทานวิตามินซีจะเป็นหลังทานอาหารช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ส่วนช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่สุดนั่นคือช่วงท้องว่างและช่วงก่อนนอน เพราะอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร
กินวิตามินซี ปริมาณเท่าไหร่ ถึงจะดีต่อร่างกาย
สำหรับปริมาณที่ควรได้รับต่อมื้อจะอยู่ที่ 500-1,000 มิลลิกรัม และควรทานไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน เพราะอาจทำให้ท้องเสีย แต่หากเป็นผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หรือโรคหวัดเรื้อรัง แพทย์อาจแนะนำทานวิตามินซีเกิน 2,000 มิลลิกรัมได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาค่ะ ทั้งนี้ครูก้อยขอแนะนำให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร
วิตามินซีกินกี่วันเห็นผล
กรณีที่คุณทานเพื่อบำรุงผิวพรรณ จะเริ่มเห็นผลหลังทานไปแล้วประมาณ 30 วันค่ะ แต่หากคุณต้องการทานวิตามินซีเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แนะนำให้ทานเป็นประจำตามปริมาณที่กำหนด แต่หากคุณมีปัญหาสุขภาพก็สามารถทานได้ในปริมาณที่มากกว่า 2,000 มิลลิกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนและดุลพินิจของแพทย์ด้วยนะคะ
กินวิตามินซีทุกวันได้ไหม
ได้ค่ะ หากคุณทานในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากวิตามินซีสามารถพบได้ในอาหารบางประเภท หากทานมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นอาการอาการปวดมวนท้อง ท้องเสียขั้นรุนแรง เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรืออาจเสี่ยงต่อภาวะนิ่วในไตจากวิตามินซีที่ขับออกจากร่างกายได้ไม่หมดและสะสมอยู่ในไต
วิตามินซี ห้ามกินคู่กับอะไร?
แม้ว่าวิตามินซีจะเป็นสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน แต่ก็อาจไม่เหมาะที่จะทานคู่กับยาบางชนิด เพราะอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาว สำหรับยาที่ไม่ควรทานคู่กับวิตามินซี ได้แก่ ยากลุ่มเคมีบำบัด, ยาคุมกำเนิด, ยาเคลือบกระเพาะ, ยารักษาโรคเบาหวาน, ยากลุ่มผู้ป่วยโรคไต, ยาละลายลิ่มเลือด, ยาต้านการแข็งตัวของเลือด, ยาลดไขมันสแตตินและไนอะซิน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดที่มีส่วนประกอบของ
เควอซิทิน (Quercetin) ช่วยให้ร่างกายดูดซึมเควอซิทินได้ดีแต่ไม่ได้รับวิตามินซีเท่าที่ควร
วิตามินบี 12 (Vitamin B12) เพราะวิตามินซีจะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินบี 12 หากจะทานจริง ๆ ควรทานหลังทานวิตามินซีไปแล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมงจะดีกว่าค่ะ
ดังนั้นหากคุณทานยาเหล่านี้อยู่แล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานวิตามินซีด้วยนะคะ
กินวิตามินซีแบบไหนดี ทำไมต้อง Phyto Crystal C จาก Babyandmom
Phyto Crystal C เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี สารสกัดจากพืช ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีมากถึง 17 ชนิด ในรูปแบบชงดื่มที่ครูก้อยออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างการผลิตคอลลาเจน ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูกระจ่างใส มีสุขภาพดี เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ในหลายๆ ด้าน ทั้งช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ไข่จากอนุมูลอิสระ ป้องกันภูมิคุ้มกันบกพร่อง นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคุณแม่เตรียมท้องด้วยนะคะ เพราะ ไฟโต คริสตัล ซี มีส่วนช่วยในการปรับปรุงคุณภาพเซลล์ไข่ เสริมฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการตั้งครรภ์ รวมถึงช่วยยืดระยะลูเทียลเฟส จึงเพิ่มโอกาสให้ตัวอ่อนฝังตัวสําเร็จมากยิ่งขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: PHYTO Crystal C SHINE MUSCAT BY KRUKOY ไฟโต คริสตัล ซี กลิ่นองุ่นไซมัสคัส บาย ครูก้อย
Kommentare