top of page
ค้นหา

กระตุ้นไข่ ไม่ยอมโต เกิดจากสาเหตุใด



กระตุ้นไข่ แม่ๆ หลายท่านที่เตรียมตัวกระตุ้นไข่เพื่อทำการฉีดเชื้อ (IUI) หรือเตรียมเก็บไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) อาจเจอกับปัญหา "ไข่ไม่โต" ทำให้ไม่สามารถปฏิสนธิได้ วันนี้เราไปหาคำตอบกันค่ะว่ามีสาเหตุใดบ้างที่ส่งผลให้ไข่ไม่โต


กระตุ้นไข่ คืออะไร สำคัญอย่างไรกับภาวะไข่ไม่โต?


หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยจากคู่สมรสที่กำลังเริ่มทำเด็กหลอดแก้วคือ ทำแล้วจะท้องในครั้งแรกเลยหรือเปล่า ถ้าเลือกตัวอ่อนที่ใส่กลับเด็กที่เกิดมาจะสมบูรณ์แข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่ไหม ซึ่งการจะตอบคำถามเหล่านี้ได้ต้องย้อนกลับไปที่ความรู้พื้นฐานจาก "การตกไข่" กันก่อนค่ะ


โดยใน 1 เดือนจะมีไข่ตก 1 ใบ และไข่ 1 ใบนี้มีโอกาสที่โครโมโซมจะแบ่งครึ่งมาพอดีหรืออาจจะไม่พอดีก็ได้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการทำเด็กหลอดแก้ว แพทย์จะทำการกระตุ้นไข่จำนวนมากเท่าที่สภาพร่างกายมีในรอบเดือนเดียว ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเป็น 10 – 15 ใบต่อ 1 รอบการกระตุ้น โดยยาฮอร์โมนกระตุ้นไข่ไม่ต่างจากฮอร์โมนกระตุ้นไข่จากร่างกายตามปกติ ดังนั้นโครโมโซมในไข่จึงไม่แตกต่างจากการตกไข่ตามธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้มีความสมบูรณ์ทุกใบ แต่สิ่งที่ได้เปรียบก็คือ เหมือนนำไข่ 10 เดือนมาตกพร้อมกันในเวลาเพียงแค่เดือนเดียว


ภาวะไข่ไม่โต เกิดจาก...


โดยปกติแล้วไข่ที่โตสมบูรณ์ควรมีขนาด 18-22 มิล จึงจะเป็นไข่ที่พร้อมปฏิสนธิ โดย ภาวะไข่ไม่โต ต้องพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ โดยสามารถสรุปสาเหตุเบื้องต้นได้ดังนี้


1. ภาวะทุพโภชนาการ


คือการทานอาหารไม่เพียงพอ ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ได้สารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการสร้าง บำรุง และซ่อมแซมเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย รวมไปถึงเซลล์ไข่ด้วย


2. เซลล์ไข่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ


ซึ่งอนุมูลอิสระถูกปล่อยออกมาอยู่ตลอดเวลาจากกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย รวมไปถึงการได้รับจากภายนอก เช่น การทานอาหารที่ไร้ประโยชน์ พวกของมันของทอด ของหวาน หรือจากมลพิษรอบๆตัว ดังนั้นแม่ๆที่เตรียมตัวกระตุ้นไข่ต้องทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยยับยั้งการทำลายเซลล์จากอนุมูลอิสระ


3. ภาวะ PCOS หรือภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง


เป็นความผิดปกติของการทำงานของรังไข่ ที่ทำให้ขบวนการการโตของไข่นั้นหยุดชะงัก มีไข่ใบเล็กๆ ที่ด้อยคุณภาพ โดยร่างกายน้ันสูญเสียกลไกการควบคุมการเจริญเติบโตของไข่ ทำให้เกิดปัญหาประจำเดือนไม่มาตามกำหนด ขาดประจำเดือน สิวขึ้น ผิวมัน ส่งผลต่อการมีบุตรยาก นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูกในระยะยาว และเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานเมื่ออายุมากขึ้น


อุบัติการณ์พบว่าประมาณร้อยละ 10 ของผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ จะมีปัญหาเรื่องของภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังซ่อนอยู่ อาการแต่ละคนที่เป็นนั้นแตกต่างกันได้หลายรูปแบบ บางคนมีประจำเดือนมาสม่ำเสมอดี หรือไม่สม่ำเสมอ หรือขาดประจำเดือนอยู่บ่อยๆ ก็เป็นภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังได้

อาการอื่นๆ ที่พบได้ เช่น สิวขึ้นไม่หาย หน้ามัน ผมร่วง เนื่องจากผู้หญิงที่อยู่ในภาวะนี้จะมีฮอร์โมนเพศชายสูง


4. ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย


เป็นภาวะที่รังไข่ไม่ตอบสนองต่อการทำงานของฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองที่เป็นฮอร์โมนควบคุมให้รังไข่ทำงาน จะมีอาการต่างๆเหมือนสตรีที่หมดประจำเดือน ส่งผลให้ฮอร์โมนผิดปกติ ไข่ไม่ตก ไข่ไม่เจริญเติบโต


แนวทางการแก้ไขปัญหาภาวะไข่ไม่ยอมโต


สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ คุณหมออาจพิจารณาเปลี่ยนยา หรือเพิ่มขนาดของยาในรอบถัดไป หรือในกรณีที่มีโรค PCOS อาจพิจารณาเพิ่มยา Metformin ซึ่งจะช่วยให้การตอบสนองดีขึ้นค่ะ แต่สำหรับตัวคุณแม่เอง การออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่เครียด ก็จะช่วยให้การตอบสนองของไข่ดีขึ้นได้นะคะ


วิธีปฏิบัติตนเองช่วงการกระตุ้นไข สามารถทำได้ ดังนี้


คู่สมรสที่ตั้งใจทำ IVF/ICSI จะต้องผ่านเหตุการณ์ของการกระตุ้นไข่ ซึ่งการกระตุ้นไข่ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เพื่อให้คุณผู้หญิงได้ไข่ที่มีคุณภาพ สมบูรณ์ ดังนั้น เราจะปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง จึงจะได้ไข่ที่มีคุณภาพและสมบูรณ์


1. ฉีดยาให้ครบจำนวนตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

2. ฉีดยาให้ตรงเวลา ซึ่งควรจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันในแต่ละวัน เพื่อให้ฮอร์โมนที่ฉีดมีปริมาณสม่ำเสมอ และ ส่งผลกับไข่ให้ได้รับฮอร์โมนเต็มที่ตามเวลา

3. ทำใจให้สบาย ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้ได้วันละ 8-10 ชั่วโมง ไม่ควรนอนดึก

4. งดการออกกำลังกายในช่วงกระตุ้นไข่

5. หากมีไข้ หรือ อาการไม่สบาย เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ ควรปรึกษาแพทย์

6. รับประทานอาหารที่มีโปรตีน และ สารอาหารครบถ้วน ทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารหวาน เค็ม แอลกอฮอร์ ของหมักดอง

7. ช่วงกระตุ้นไข่ พยายามทานไข่เฉพาะไข่ขาวให้ได้วันละ 3 ฟอง ที่สำคัญ การกระตุ้นไข่ขึ้นอยู่กับปริมาณไข่ตั้งต้น และ ค่าฮอร์โมนการทำงานของรังไข่ด้วยนะคะ


ท้ายที่สุด ขอให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนอย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ เพราะไม่ว่าจะเป็นการทำ IVF หรือ ICSI ต่างต้องใช้เวลาและความชำนาญของแพทย์ทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญคือทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องดูแลตนเองให้ดีที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมในการมีเจ้าตัวน้อยนั่นเองค่ะ


บทความที่น่าสนใจ



ดู 4,302 ครั้ง0 ความคิดเห็น
ครูก้อย.jpg

คุยกับครูก้อย/ทีมงาน

ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page