เผย 4 สาเหตุ
ทำไม #ท้อง แล้ว #แท้ง
ปรึกษาปัญหามีบุตรยาก ที่ Line Official คลิกลิ้งค์นี้เลย
https://lin.ee/fBa4xkz
แท้ง (Miscarriage)
การแท้งถือเป็นภาวะผิดปกติอย่างหนึ่งของการตั้งครรภ์ ซึ่งพบได้ประมาณ 10-15% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด โดยการแท้งนั้นอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ได้ 2-3 สัปดาห์ไปจนถึง 28 สัปดาห์ แต่การแท้งมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่คุณแม่มีอายุครรภ์ประมาณ 4-20 สัปดาห์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 13 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์)
การแท้งนั้น ในทางการแพทย์ถือว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคนแต่เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจสำหรับคนเป็นพ่อแม่…. วันนี้เราไปดู 4 สาเหตุของการแท้งกันค่ะ
1. โครโมโซมทารกผิดปกติ
เป็นสาเหตุของการแท้งในช่วง 3 เดือนแรกที่พบได้บ่อยที่สุด โดยโครโมโซมนี้เป็นการจัดเรียงตัวกันของดีเอ็นเอ ซึ่งจะควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่พัฒนาการของเซลล์ในร่างกาย หรือแม้แต่สีตาของทารก
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจเป็นการมีจำนวนโครโมโซมมากเกินปกติหรือมีจำนวนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ทารกไม่สามารถพัฒนาได้อย่างปกติและมีการแท้งเกิดขึ้นได้ในที่สุด ซึ่งการแท้งจากโครโมโซมที่ผิดปกติในช่วงแรกของการตั้งครรภ์นี้มีอัตราถึง 2 ใน 3
การตรวจปัสสาวะพบว่ายังให้ผลบวก แสดงว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นแล้วแต่ไม่มีตัวทารก เพราะมีแต่รกเท่านั้นที่เจริญเติบโตได้ต่อไปสักระยะหนึ่งแล้วคุณแม่จึงมีเลือดออก หรือทารกอาจมีความพิการบางอย่างก็เลยถูกขับออกมาเองตามกลไกธรรมชาติ ก่อนที่จะปล่อยให้มีเด็กพิการเกิดขึ้น
2. ปัญหาจากรก
รกมีหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างมารดากับทารกเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงทารกในครรภ์ ดังนั้นปัญหาที่ส่งผลต่อการพัฒนาของรกจึงสามารถนำไปสู่การแท้งบุตรได้เช่นกัน
3.สาเหตุจากคุณแม่
การแท้งที่เกิดจากความผิดปกติของคุณแม่มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
• คุณแม่มีอายุมากกว่า 35 ปี หรือมีอายุน้อยกว่า 15 ปี จากข้อมูลพบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากจะมีความเสี่ยงที่จะแท้งบุตรได้มากกว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุน้อย
• เคยมีการแท้งบุตรมาก่อน
• เคยมีการขูดมดลูกจากสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งทำให้ตัวอ่อนที่ฝังตัวไม่สามารถเจริญเติบโตได้
• คุณแม่ที่มีสุขภาพไม่ดี เจ็บป่วยเรื้อรังหรือมีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำงานหนัก และมีความเครียดสูง ก็จะทำให้แท้งบุตรได้ง่ายขึ้น
• มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคเอสแอลอี (SLE) โรคพีซีโอเอส (PCOS) โรคภูมิแพ้ตัวเอง (Lupus) หรือโรคติดเชื้อต่าง ๆ (เช่น หัด หัดเยอรมัน มาลาเรีย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์)
• มีความผิดปกติเกี่ยวกับการสร้างฮอร์โมนจากรังไข่ ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงตัวอ่อนได้นานพอ โดยพบว่าคุณแม่ที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนต่ำ เมื่อฮอร์โมนน้อยเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะมีสภาพไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ตัวอ่อนจึงไม่สามารถเจริญเติบโตได้และทำให้มีการแท้งเกิดขึ้น
• มีภาวะหมู่เลือดของคุณแม่และทารกเข้ากันไม่ได้ (Rh incompatability)
• ปากมดลูกฉีกขาดมากจากการคลอดครั้งก่อนหรือจากการทำแท้งที่ไม่ถูกวิธี จึงทำให้ปากมดลูกไม่แข็งแรงและปิดไม่สนิท จึงเกิดการแท้งได้ง่าย
• มดลูกมีความผิดปกติ เช่น มีความผิดปกติของมดลูกแต่กำเนิดหรือมดลูกมีรูปร่างผิดปกติ, ในโพรงมดลูกมีก้อนเนื้องอกหรือมีผนังกั้นในโพรงมดลูก
• เกิดจากการอักเสบในช่องคลอดและมดลูก การติดเชื้อในร่างกายหรืออุ้งเชิงกราน หรือการอักเสบทั่วร่างกายอย่างรุนแรง มีไข้สูง จนทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตและแท้งออกมา
• เกิดจากการติดเชื้ออย่างรุนแรงจากมารดาและเชื้อโรคได้เคลื่อนผ่านรกไปถึงทารก จนเป็นสาเหตุทำให้ทารกเสียชีวิตและแท้งในเวลาต่อมา
• คุณแม่ขาดสารอาหารมาก ๆ โดยเฉพาะการขาดกรดโฟลิกและวิตามินซี ซึ่งจะทำให้คุณแม่แท้งบุตรได้ง่าย
4. การใช้ยาบางชนิด หรือ การได้รับสารเคมี
เช่น ยารักษาไข้มาลาเรียในกลุ่มควินิน อาจทำให้แท้งได้เพราะมีฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัว
ยารักษาโรคมะเร็งหรือการได้รับสารตะกั่ว มีผลทำให้ทารกเสียชีวิตและแท้งได้
การได้รับสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะสูดดมหรือสัมผัส ย่อมเป็นสาเหตุให้เกิดการแท้งได้เช่นกัน
รวมไปถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือติดยาเสพติดด้วยค่ะ
ครูก้อยขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ที่เคยสูญเสียลูกน้อยไป อย่าเพิ่งท้อนะคะ ดูแลตัวเอง บำรุงร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ เริ่มใหม่ได้เสมอค่ะ