ทำ ICSI ไม่ติดเป็นเพราะสาเหตุใด
ปรึกษาปัญหามีบุตรยาก ที่ Line Official คลิกลิ้งค์นี้เลย
https://lin.ee/fBa4xkz
แม่ๆหลายคนที่กำลังเข้าสู่ภาวะมีบุตรยาก อาจกำลังมองหาข้อมูลในการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์กันอยู่ใช่มั้ยคะ แน่นอนว่าการทำ ICSI หรือ “เด็กหลอดแก้ว” เป็นวิธีที่ทันสมัยและเป็นที่นิยมมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งก็คือการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย เลี้ยงเป็นตัวอ่อน แล้วย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อให้เจริญเติบโตต่อไป
อย่างไรก็ตามยังมีความเข้าใจผิดกันว่าเมื่อเราเข้าปรึกษาแพทย์ และใช้วิธีการทำเด็กหลอดแก้วแล้ว จะสามารถตั้งครรภ์ได้ 100%
จากสถิติการตั้งครรภ์จากเด็กหลอดแก้วมีประมาณ 35-50% เท่านั้น หรือ หากมีการคัดโครโมโซมก็อาจมีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นเป็น 70-75% ไม่มีวิธีหรือสถาบันไหนการันตีความสำเร็จได้ 100% ค่ะ
จากการศึกษาพบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้การทำเด็กหลอดแก้วไม่ประสบความสำเร็จคือ “คุณภาพของเซลล์ไข่” นั่นเองค่ะ
เซลล์ไข่ คือวัตถุดิบหลักในการสร้างตัวอ่อน แน่นอนว่าต้องเอาไปผสมกับ “อสุจิ” ด้วย ดังนั้นคุณภาพของอสุจิของฝ่ายชายก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน
เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยแก้ปัญหาผู้มีบุตรยากได้ เช่น
ท้องธรรมชาติไม่ได้ ก็ใช้การปฏิสนธิภายนอก
ไข่ไม่ตก ก็เก็บไข่มาปฏิสนธิภายนอก
ท่อนำไข่ตีบ อสุจิไม่สามารถเข้าไปผสมกับไข่ได้ ก็เก็บไข่มาปฏิสนธิภายนอก
….แต่ตัวคุณภาพไข่นั้น เทคโนโลยีไปช่วยไม่ได้นั่นเองค่ะ หากไข่ หรือ อสุจิ ไร้คุณภาพ ต่อให้ใช้เทคโนโลยีนำมาผสมกันภายนอกได้ แต่ก็อาจกลายเป็นตัวอ่อนที่ไม่ดี ตัวอ่อนตายก่อนย้ายกลับโพรงมดลูก หรือย้ายแล้วก็ไม่ฝังตัว…และแท้งไปในที่สุด
วันนี้เราไปศึกษาในรายละเอียดกันค่ะว่า มีสาหตุใดบ้างที่ทำให้การ ICSI ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ
#อายุฝ่ายหญิง กรณีที่อายุของฝ่ายหญิงมากกว่า 35 ปี จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของรังไข่แย่ลง ส่งผลให้
คุณภาพของไข่แย่ลง ยิ่งอายุมากขึ้นไข่ยิ่งเสื่อม โครโมโซมของเซลล์ไข่ยิ่งผิดปกติ ผู้หญิงอายุ 35 ปี เซลล์ไข่จะมีโครโมโซมผิดปกติถึง 50% ถ้าอายุ 40 ปีมีโกาสที่โครโมโซมไข่ผิดปกติถึง 85-90%
การตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่น้อยลง ได้ไข่น้อยและต้องใช้ปริมาณยาเยอะในการกระตุ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้อีก ได้แก่ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป Ovarian hyperstimulation syndrome (OHSS)
เมื่อคุณภาพไข่แย่ คุณภาพตัวอ่อนย่อมแย่ตามไปด้วย และยากที่ตัวอ่อนจะฝังตัวและพัฒนาเติบโตต่อไปค่ะ
#อสุจิของฝ่ายชาย
อสุจิที่จะเข้าผสมกับไข่แล้วทำให้เกิดการปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์นั้น ต้องเป็นอสุจิที่มีคุณภาพด้วย ในทางการแพทย์มีหลักเกณฑ์ในการวัดอสุจิที่มีคุณภาพอยู่ 4 หลักเกณฑ์ ได้แก่
1. ปริมาตรในการหลั่ง ต้องไม่น้อยกว่า 1.5 cc ต่อการหลั่งหนึ่งครั้ง
2. จำวนตัวอสุจิ ต้องมีไม่น้อยกว่า 15 ล้านตัวต่อน้ำอสุจิ 1 cc
3. ต้องมีตัวอสุจิที่เคลื่อนไหวมากว่า 40%
4. ต้องมีอสจิที่มีรูปร่างสมบูรณ์ ไม่น้อยกว่า 4%
หากมีปัญหาข้างต้น มันก็คือสาหตุที่ทำให้คุณท้องธรรมชาติไม่ได้
การใช้วิธี ICSI ก็คือการคัดเลือกอสุจิที่ดีที่สุดมาเจาะเข้าเนื้อไข่โดยตรง แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าตัวที่ถูกเลือกมาคือตัวที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว เพราะอาจยังมีความผิดปกติใน DNA ของตัวอสุจิที่ซ่อนอยู่อีก ดังนั้นหาก อสุจิไม่มีคุณภาพก็จะส่งผลให้…
เกิดการปฏิสนธิลดลง
ทำให้ได้ตัวอ่อนน้อย
คุณภาพตัวอ่อนไม่ดี อาจตายก่อนย้าย หรือย้ายแล้วก็แท้งได้ง่าย
#ความผิดปกติของตัวอ่อนด้านสารพันธุกรรมหรือโครโมโซม
บ่อยครั้งตัวอ่อนสวย คุณภาพดี แต่ย้ายแล้วไม่ตั้งครรภ์ อาจเป็นเพราะตัวอ่อนเหล่านั้นมีความผิดปกติของโครโมโซม ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ จนกว่าจะมีการคัดโครโมโซมตัวอ่อนไปตรวจก่อนทำการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ปัจจัยที่ทำให้โครโมโซมตัวอ่อนผิดปกติได้แก่
ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 35 ปี
คู่สมรสมีความผิดปกติของสารพันธุกรรมที่สามารถถ่ายทอดได้
มีประวัติการแท้งมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป
มีประวัติล้มเหลวในการตั้งครรภ์จากวิธีเด็กหลอดแก้วมาก่อน
ดังนั้นหากแม่ที่อายุ 35 แพทย์อาจจะแนะนำให้มีการคัดโครโมโซมก่อนย้ายตัวอ่อน อย่างไรก็ตามถึงแม้จะคัดโครโมโซมแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จ 100% เนื่องจากการหยิบเอาเซลล์ของตัวอ่อนไปตรวจนั้น หยิบได้ไปเพียงบางส่วนเท่านั้น ถึงแม้ตอนคัดผลจะปรากฏว่าผ่าน แต่ไม่ได้หมายความว่าผ่านทั้งหมด แต่เป็นแค่ผ่านเกณฑ์ที่ทำให้โอกาสตั้งครรภ์มีสูงขึ้น
#มดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูก
อย่าลืมว่าเมื่อปฏิสนธิได้ตัวอ่อนที่สมบูรณ์ภายนอกร่างกายแล้ว ท้ายที่สุดก็ต้องย้ายเข้ามาฝังตังในโพรงมดลูกของแม่ๆค่ะ ดังนั้นหากโพรงมดลูกไม่หนาตัว ไม่แข็งแรง ไม่มีเลือดไหลเวียนนำพาสารอาหารไปเลี้ยงเพียงพอ ตัวอ่อนก็ยากที่จะฝังตัวได้ค่ะ
ผนังมดลูกที่สมบูรณ์พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อนต้องมีลักษณะดังนี้
1.เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเพียงพอ มดลูกอุ่น
2.หนา 8-10 มิล
3.ใส ไม่ทึบ
4.เรียงสวย 3 ชั้น ( Triple Lines)
นอกจากนี้ต้องไม่มีปัญหาอื่นๆ เช่น โพรงมดลูกบิดเบี้ยวจากเนื้องอกมดลูก หรือ มีติ่งเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกรบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน
#ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่ำ
กรณีนี้คือแม่ๆ อาจมีความผิดปกติในการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (ฮอร์โมนตั้งครรภ์) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ผนังมดลูกฟูหนาตัวขึ้นพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งเรียกว่ามี “ภาวะบกพร่องของระยะลูเทียสเฟส” (Luteal phase defect)
ความบกพร่องของระยะลูเทียลเกิดขึ้นเมื่อ#ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนถูกผลิตน้อยเกินไปหลังจากไข่ตก ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หนาตัว หรือ #มดลูกไม่ตอบรับกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้มีช่วงระยะลูเทียลสั้นประมาณ 10 วัน จากนั้นก็จะมีประจำเดือนมาไวกว่าปกติ #ทำให้วงจรรอบเดือนเสียสมดุล #โพรงมดลูกไม่สามารถพัฒนาไปถึงจุดที่สมบูรณ์พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อนได้ #ส่งผลให้ตัวอ่อนไม่ฝังตัวหรือแท้งในระยะเริ่มต้น
ในบางกรณีแพทย์จะให้ฮอร์โมนมาเสริมเพื่อช่วยพยุงครรภ์หลังย้ายตัวอ่อน หากแม่ๆใช้ยาไม่สม่ำเสมอก็อาจส่งผลให้มีฮอร์โมนไม่เพียงพอในการที่จะพยุงการตั้งครรภ์ไว้ได้ค่ะ
เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าสาเหตุที่อาจทำให้การทำเด็กหลอดแก้วไม่ประสบความสำเร็จนั้นมีหลายปัจจัยด้วยกัน ครูก้อยแนะนำให้แม่ๆบำรุงไข่และดูแลร่างกายให้พร้อมล่วงหน้า 3 เดือนก่อนไปเก็บไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว ทานอาหารบำรุงไข่ บำรุงผนังมดลูกให้แข็งแรง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้ปกติ บำรุงสเปิร์มและดูแลสุขภาพของคุณสามีด้วย ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้วได้ค่ะ เพราะเราเตรียมวัตถุดิบที่ดีไปแล้ว เผลอๆอาจจะท้องธรรมชาติแบบไม่ทั้นตั้งตัวก็ได้นะคะ ครูก้อยขอให้ทุกคู่มีเบบี๋มาเติมเต็มชีวิตครอบครัวในเร็ววันค่ะ