ฝังตัวอ่อนให้ติดง่ายๆ ด้วยวิตามิน D จาก Ferty
top of page
ค้นหา

ฝังตัวอ่อนให้ติดง่ายๆ ด้วยวิตามิน D จาก Ferty

วิตามิน D เป็นวิตามินสำคัญสำหรับแม่ๆ ที่อยากฝังตัวอ่อนให้ติดง่ายๆ แล้ววิตามินดีมีประโยชน์อย่างไร หาได้จากไหนบ้าง ครูก้อยมีคำตอบค่ะ

หน้าที่ของวิตามิน D ที่คุณแม่ควรรู้


หากพูดถึงวิตามิน D หรือหลายคนที่รู้จักกันในชื่อ Calciferol, Antirachitic Factor หรือบางคนเรียกว่า วิตามินแดด เป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมันเท่านั้น ไม่สามารถผลิตขึ้นมาเองจากในร่างกาย แต่จะได้รับจากการทานอาหารเข้าไป หรือจากแสงแดด วิตามินดีทำหน้าที่เสริมสร้างแคลเซียมในกระดูกและฟัน, ป้องกันโรคกระดูกอ่อน, โรคกระดูกพรุน, กระดูกหัก, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, การลื่นล้ม และลดภาวะโรคซึมเศร้า รวมถึงกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย


วิตามิน D สามารถพบได้ในอวัยวะต่างๆ ของผู้หญิง เช่น มดลูก, รังไข่ และรก โดย active form ของวิตามินดี (หรือ คาลซิเทรียล) ทำหน้าที่ต่างๆ ในระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง รวมถึงการฝังตัวของตัวอ่อนด้วย เมื่อจับกับตัวรับของมัน (receptor) คาลซิเทรียลจะบังคับยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเอสโทรเจน เมื่อมีตัวอ่อนเข้ามาในโพรงมดลูก ผนังมดลูกจะสร้างคาลซิเทรียลเพื่อเตรียมความพร้อมให้ตัวอ่อนก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฝังตัว เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ มดลูกและรกก็ยังคงสร้างคาลซิเทรียลนี้อยู่ เพื่อช่วยเซลล์ภูมิคุ้มกันให้จัดการกับการติดเชื้อโดยไม่ทำร้ายครรภ์


วิตามิน D2 และวิตามิน D3 แตกต่างกันอย่างไร?


1. วิตามินดี 2


หรือ เออโกแคลซิเฟอรอล (Ergocalciferol) เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ จะได้จากการทานอาหารประเภทพืชและยีสต์ เช่น รา, ยีสต์, เห็ดที่ปลูกในแสงแดด และอาหารที่เติมวิตามินดี เช่น อาหารเช้าซีเรียล


2. วิตามินดี 3


หรือ โคเลแคลซิเฟอรอล (Cholecalciferol) เป็นวิตามินที่ได้จากการสังเคราะห์ของผิวหนังคนเรา เมื่อผิวหนังได้รับแสงแดดที่มีรังสีอัลตร้าไวโอเลตบี ผิวหนังจะดูดซับรังสีและกระจายตัวบนผิวหนังชั้นบน ผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นวิตามินดี 3 นอกจากนี้ยังมีอยู่ในอาหารจากสัตว์ เช่น ปลาแซลมอน, ตับวัว, หมู, น้ำมันปลา


ไม่ว่าเราจะได้วิตามินดีแบบไหนจากแหล่งใดก็ตาม ตับของเราจะเปลี่ยนวิตามินดี 2 ให้กลายเป็น 25-Hydroxyvitamin D2 และวิตามินดี 3 เป็น 25-Hydroxyvitamin D3 ซึ่งเป็นรูปแบบวิตามินดีที่ร่างกายนำไปใช้ได้ จะเรียกสาร 2 ตัวนี้รวมกันว่า Calcifediol ใช้เป็นตัวเจาะเลือดบอกระดับของวิตามินดีของร่างกายได้ดีที่สุด เจ้าสารตัวหลังนี่แหละที่เป็น Active forms ไปออกฤทธิ์ต่างๆ


จะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายขาดวิตามิน D


ถ้าเราอยากรู้ว่าร่างกายขาดวิตามินดีหรือไม่ สามารถไปพบคุณหมอเพื่อตรวจเลือด (25-Hydroxy Vitamin D Blood Test) หาระดับ Calcifediol ถ้ามี Calcifediol น้อย หมายความว่าร่างกายเรากำลังขาดวิตามินดีนั่นเอง ส่วนความเชื่อที่ว่าวิตามินดี 2 มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนเป็นไฮดรอกซีวิตามินดีต่ำกว่าวิตามินดี 3 นั้นเป็นความเข้าใจผิด งานวิจัยเปรียบเทียบพิสูจน์แล้วว่าทั้งวิตามินดี 2 และ 3 เมื่อให้ในขนาดเท่ากัน จะเปลี่ยนไปเป็นไฮดร๊อกซี่วิตามินดี Hydroxyvitamin ได้เท่าๆ กันค่ะ


วิตามินดี เหมาะกับแม่ๆ ที่วางแผนตั้งครรภ์อย่างไร?


สำหรับแม่ๆ ที่วางแผนจะทำ IVF และ ICSI ก็ต้องบำรุงตัวเองด้วยวิตามินดี เพราะวิตามินดีมีส่วนช่วยในการสืบพันธุ์, บำรุงไข่ ไปจนถึงการฝังตัวของตัวอ่อน จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่มีวิตามินดีในร่างกายสูง มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าคนที่มีวิตามินดีน้อย


ส่วนแม่ๆ ที่สงสัยว่าจะไปหาวิตามินดีจากไหนดี ครูก้อยบอกเลยว่าวิตามินดีนั้นหาง่ายมาก แค่เดินออกนอกบ้าน ไปรับแดดยามเช้า (06.00 – 08.00 น) ประมาณ 25-30 นาที ก็ได้วิตามินแล้ว เนื่องจากแสงแดดมีรังสีอัลตร้าไวโอเลต (รังสี UV) จะไปกระตุ้นและทำปฏิกิริยากับน้ำมันที่ผิวหนัง ให้เปลี่ยนมาเป็นวิตามินดีซึ่งจะดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายต่อไป แต่หากชอบทานเป็นอาหารมากกว่า ครูก้อยแนะนำไข่แดง, ปลา, หมู แต่ถ้าไม่สะดวกก็ทานแบบวิตามินเสริม แต่ต้องอยู่ในรูป Vitamin D3 จะดีกว่า


วิตามิน D จากโปรตีน Ferty มีดียังไง ทำไมต้องทาน


ส่วนตัวครูก้อยเองแนะนำให้ทานโปรตีน Ferty เพราะในโปรตีนมีวิตามิน D ในปริมาณที่เหมาะสมอยู่แล้ว และมีมัลติวิตามินอื่นๆ ครบถ้วนสำหรับคนวางแผนท้อง โดยเฉพาะแม่ๆ ที่เป็น PCOS ซึ่งมีวิตามินดีในร่างกายน้อยกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว เราเลยต้องทานอยู่ตลอด แต่ถ้าทานมากเกินไปก็ไม่ดีนะ เพราะทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ส่งผลให้เบื่ออยากอาหาร, อ้วก, ฉี่บ่อย และง่วงบ่อยได้


ทางที่ดีควรทานโปรตีน Ferty เพียง 2 ซอง/วัน เพื่อให้ได้รับวิตามิน D อย่างเพียงพอค่ะ เพราะแดดบ้านเราแปบเดียวก็ร้อนแล้ว แถมยังร้อนมากด้วย ถ้าเผลอตากตอนแดดร้อนๆ อาจได้ผิวไหม้แดด จนกลายเป็นผิวหนังหย่อนยานแทนได้นะคะ


บทความที่น่าสนใจ

ดู 473 ครั้ง0 ความคิดเห็น
ครูก้อย.jpg

คุยกับครูก้อย/ทีมงาน

ครูก้อยเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นเจ้าของเพจ BabyAndMom.co.th (เพจให้ความรู้สำหรับผู้มีบุตรยาก) ครูก้อยยินดีอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ท่านใดที่ต้องการคุยกัน สามารถทัก LINE@ เข้ามาได้เลยนะคะ โดยจะมีครูก้อยและทีมงานคอยให้การต้อนรับค่ะ

bottom of page